[:th]คอลลาเจนกับกระดูก หลายคนอาจกำลังสงสัยว่าทั้ง 2 สิ่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างไร เนื่องจากเรามักมีภาพจำกับคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยในเรื่องของความเต่งตึงของผิวและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่านอกจากเรื่องผิว คอลลาเจนยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการสร้างความแข็งแรงให้แก่กระดูกเช่นเดียวกับแคลเซียม จึงเป็นเหตุผลที่ลูกหลานหลาย ๆ ครอบครัวจะซื้ออาหารเสริมที่เป็นคอลลาเจนให้แก่ผู้สูงอายุได้ทานนั่นเองค่ะ ซึ่งจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ บทความนี้ Charmace มีคำตอบค่ะ
คอลลาเจนกับกระดูก เกี่ยวอะไรกัน อยากมีกระดูกที่แข็งแรง ทานคอลลาเจนก็ช่วยได้ จริงไหม?
เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน ซึ่งต่างกล่าวอ้างว่า สามารถทำให้ผิวพรรณสดใส ผิวเนียน ลื่น ดูอ่อนเยาว์หลังจากที่ได้ใช้ หรือแม้กระทั่งบางครั้ง พูดถึงสรรพคุณของคอลลาเจนว่าเป็นคอลลาเจนบำรุงกระดูก และสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดจากโรคที่เกี่ยวกับกระดูกและข้อได้ ซึ่งจะเป็นจริงอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ เรามาดูไปพร้อม ๆ กันค่ะ
“คอลลาเจน” นอกจากความเต่งตึงของผิว ยังมีส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรงจริงหรือ?
คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของกรดอะมิโนหลายชนิด จะสามารถพบได้ตามกระดูก กระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จึงมีการนำคอลลาเจนไปใช้ในคนไข้โรคข้อเข่าเสื่อม กับคนที่มีภาวะกระดูกบางหรือกระดูกเปราะ
ซึ่งคอลลาเจน เป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้และได้รับจากอาหารหลายประเภทแต่ในคนที่มีอายุมากขึ้นโดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ขึ้นไปพบว่าร่างกายผลิตคอลลาเจนลดลงหรือในบางคนรุนแรงถึงขั้นร่างกายหยุดผลิตคอลลาเจนไปเลย เช่นผู้ที่มีปัจจัยบางอย่างทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพหรือถูกทำลายได้ง่าย เช่นผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ผู้ที่มีความเครียด ผู้ที่สูบบุหรี่ เป็นต้นจึงได้รับคอลลาเจนที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้มีอาการปวดเข่า เข่ามีเสียงกรอบแกรบ ร่างกายเคลื่อนไหวไม่สะดวก ผิวหนังหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ไม่เรียบเนียนและเกิดริ้วรอยได้
คอลลาเจนบำรุงกระดูกได้จริงหรือ ?
เมื่อนึกถึงคอลลาเจน หลาย ๆ คนคงนึกถึงเรื่องบำรุงผิวพรรณ และการชะลอริ้วรอย แต่คอลลาเจนนั้นยังมีประโยชน์ทางด้านการแพทย์ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับข้อต่อ กระดูก อาการเจ็บหลังการผ่าตัด และการลดอาการปวดและความเสื่อมภายในอีกด้วย คอลลาเจนพบมากในเนื้อเยื่อกระดูกและข้อต่อของร่างกาย ซึ่งคอลลาเจนที่อาจช่วยในเรื่องของการเสื่อมตัวของกระดูกและอาการเจ็บปวดจากโรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อต่อนั้น เป็นคอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type 2)
คอลลาเจนชนิดที่ 2 คือ…
คอลลาเจนแบ่งได้เป็นหลายชนิด แต่ชนิดที่พบได้มากในร่างกายของเรามี 5 ชนิด และชนิดของคอลลาเจนที่มีความสำคัญกับกระดูกก็คือ คอลลาเจนชนิดที่ 2 ( Collagen Type II ) คอลลาเจนชนิดที่ 2 ช่วยเพิ่มระดับ “กรดไฮยาลูนิค” ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ย่อยสลายน้ำหล่อเลี้ยงข้อ เรียกได้ว่าเป็นคอลลาเจนบำรุงกระดูก
คอลลาเจนชนิดที่ 2 สามารถพบได้มากที่บริเวณเนื้อเยื่อกระดูกและข้อต่อกระดูกในร่างกายมนุษย์ จากงานวิจัยที่ศึกษาประสิทธิภาพของคอลลาเจนชนิดที่ 2 หรือคอลลาเจนบำรุงกระดูก พบว่า คอลลาเจนชนิดนี้สามารถถูกดูดซึมผ่านลำไส้และไปสะสมที่กระดูกอ่อนได้ กลไกการทำงานของคอลลาเจนชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นคอลลาเจนบำรุงกระดูก ช่วยให้ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับข้อต่อและข้อต่อเสื่อมมีอาการดีขึ้น
ประโยชน์ของคอลลาเจนที่มีต่อกระดูก
สามารถแบ่งออกหลัก ๆ ได้ 2 ประการค่ะ ดังนี้
ช่วยบำรุงสุขภาพข้อต่อ
คอลลาเจนช่วยปกป้องความแข็งแรงของกระดูกอ่อนเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นและลดการอาการปวดข้อปวดเข่าต่าง ๆ จากการศึกษา เราแนะนำให้ทานอาหารเสริมคอลลาเจน 8-12 กรัมต่อวัน เพื่อลดอาการปวดข้อและชะลอการเสื่อมสภาพที่เกี่ยวกับอายุ
ช่วยบำรุงสุขภาพและป้องกันการสูญเสียกระดูก
กระดูกส่วนใหญ่สร้างมาจากคอลลาเจน นั่นเป็นเหตุผลที่คอลลาเจนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการสร้างกระดูกใหม่ นอกจากนี้ยังสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก จากผลการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่ทานคอลลาเจน 5 กรัมต่อวันเป็นเวลา 12 เดือนจะมีความหนาแน่นของกระดูกเพิ่มขึ้นประมาณ 7 %
ทานคอลลาเจนเวลาไหน ดีที่สุด?
นักโภชนาการได้แนะนำว่า การรับประทานคอลลาเจนนั้น สามารถทานได้ทุกเวลาตามสะดวก ตามต้องการ ไม่ว่าจะรับประทานควบคู่กับอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ชอบก็ได้ เพราะว่าคอลลาเจนนั้นไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ถ้าหากอยากให้คอลลาเจนส่งผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ควรรับประทานตอนที่ท้องยังว่าง เพราะช่วงเวลาที่ท้องว่างนั้น ระบบการทำงานของร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ (คอลลาเจน จะดูดซึมเข้าร่างกายได้ โดยไม่ถูกกรดในกระเพาะทำลาย ดังนั้นทานคอลลาเจน 2-3 ชม. หลังอาหารจะดีที่สุด) สิ่งที่สำคัญเลยถ้าหากว่าอยากให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจมากที่สุด คือควรรับประทานคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง โดยรับประทานพร้อมกับน้ำผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ๆ เพราะว่าวิตามินซีมีส่วนช่วยในกระบวนการดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายนั่นเองค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ศึกประชัน คอลลาเจนเม็ด vs คอลลาเจนผง ตัวไหนกินแล้วเป๊ะเว่อร์กว่ากัน !!
5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับอาหารเสริมมีอะไรบ้าง
อาหารเสริมผิวขาวตัวไหนดี เลือกยังไงให้ปลอดภัยและเหมาะกับเรา[:]