กาแฟเพื่อสุขภาพ เป็นเครื่องดื่มที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลาย ๆ คน นั่นเป็นเพราะว่า หลังจากดื่มกาแฟแล้ว จะทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และช่วยทำให้หายง่วงซึมขณะเรียนหรือทำงาน ซึ่งกาแฟนั้นมีประโยชน์มากมาย เช่น กาแฟเพื่อสุขภาพ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการลดน้ำหนัก ลดอัตราการเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน ลดอัตราการเกิดภาวะความจำเสื่อม และ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจในผู้หญิงได้อีกด้วย
กาแฟเพื่อสุขภาพ เทรนด์สินค้าที่น่าจับตามองในยุคที่สถานการณ์บังคับให้เราต้องดูแลตัวเอง
“กาแฟ” เครื่องดื่มยอดนิยมสำหรับใครหลายคน บางคนอาจชื่นชอบการดื่มกาแฟร้อน บางคนอาจชื่นชอบการดื่มกาแฟเย็น หรือบางคนอาจชื่นชอบการดื่มกาแฟใส่นม ใส่ช็อกโกแลต หรือว่าโกโก้และอื่น ๆ ตามแต่ละสูตร ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละบุคคล แต่ถ้าหากจะให้พูดถึงกาแฟที่กำลังเป็นกระแสนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากาแฟเพื่อสุขภาพ นับว่ามาแรงพอสมควรทำให้มีบริษัทผลิตกาแฟหลายยี่ห้อ ต่างหันมาพัฒนากาแฟเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น
ศึกษาให้เข้าใจการตลาด “กาแฟ” ในยุคปัจจุบัน
อันดับแรกก่อนที่เราจะสร้างแบรนด์กาแฟ เราต้องเข้าใจการตลาดของกาแฟในยุคปัจจุบันให้ดีเสียก่อน ซึ่งถ้าเป็นในอดีตการขายกาแฟ ก็จะเน้นไปที่รสชาติ แหล่งเพาะปลูก หรือสายพันธุ์ของกาแฟ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันนี้การตลาดได้เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคเริ่มมองหาความคุ้มค่าในตัวผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้กาแฟต้องมีจุดเด่นเพิ่มเติมขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นกาแฟลดความอยากอาหาร กาแฟผสมคอลลาเจน กาแฟบำรุงสุขภาพ ยิ่งใส่จุดเด่นไปมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้กาแฟแบรนด์นั้นได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจุดเด่นที่กล่าวอ้างจะต้องมีความปลอดภัยและได้รับการรับรองว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภคจริง 100%
จาก “กาแฟธรรมดา” สู่ “กาแฟเพื่อสุขภาพ” แบรนด์ที่นักธุรกิจอยากลงทุน
หลาย ๆ คนอาจคุ้นชินกับการนั่งทานกาแฟสด หรือการไปนั่งทานที่ร้านเพื่อรับกลิ่น สร้างบรรยากาศในการดื่มกาแฟ จริงอยู่ค่ะที่การไปนั่งดื่มกาแฟสดที่ร้าน เป็นวิธีการที่ค่อนข้างดีในการช่วยให้ผ่อนคลายในระหว่างทำงานได้ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงมีผู้บริโภคให้ความสนใจกับการรับประทานกาแฟเช่นนี้อยู่ หากแต่การนั่งดื่มกาแฟที่ร้าน เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้บริโภคบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ผู้ที่ทำงาน Freelance หรือ ผู้ที่สามารถทำงานออนไลน์ได้ไม่ต้องเร่งรีบเข้าออฟฟิศ เป็นต้น แต่ก็ยังมีผู้บริโภคอีกกลุ่มหนึ่งที่ชีวิตติดอยู่กับการเร่งรีบ ต้องทำงานที่ออฟฟิศและไม่สามารถไปนั่งทานกาแฟสดได้บ่อย ๆ แถมยังมีวัยรุ่นหนุ่มสาวที่สมัยนี้ก็นิยมหันมาทานกาแฟมากขึ้น และผู้สูงอายุที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ แต่ก็ไม่สามารถทานได้มากเท่าเมื่อก่อนเพราะกลัวเป็นปัญหาสุขภาพ สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมาจึงเป็นจุดเริ่มต้นของกาแฟเพื่อสุขภาพที่สามารถตีตลาดในลูกค้าได้หลาย ๆ กลุ่ม เพราะเป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่รักของใครหลาย ๆ คนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เจ้าของแบรนด์สามารถเพิ่มเติมสรรพคุณในการบำรุงสุขภาพให้เจาะจงในแต่ละกลุ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งยิ่งไปกว่านั้นการทำธุรกิจกาแฟเพื่อสุขภาพยังสามารถแปรรูปจากกาแฟเม็ดสู่กาแฟสำเร็จรูปในซอง ชงดื่มกับน้ำร้อนได้ง่าย ๆ เพื่อสร้างความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคด้วย
กาแฟสด VS กาแฟสุขภาพแบบสำเร็จรูป แตกต่างกันอย่างไร ผู้บริโภคชอบแบบไหนมากกว่ากัน?
หลาย ๆ คนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเป็นประจำก็คงจะรู้กันดีว่ากาแฟนั้นมีอยู่สองประเภท ก็คือ กาแฟสด และ กาแฟสำเร็จรูป ซึ่งถึงแม้จะรู้ว่ามีกาแฟอยู่สองประเภท แต่บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว กาแฟทั้งสองแบบนี้มันต่างกันยังไง ดังนั้น เมื่อเจ้าของแบรนด์อยากสร้างแบรนด์กาแฟ จึงมีความจำเป็นที่ต้องมาดูข้อแตกต่างของกาแฟทั้ง 2 แบบนี้ค่ะ
วิธีการผลิต
เริ่มตั้งแต่วิธีการผลิตกันเลย กาแฟสำเร็จรูปนั้นจะมีลักษณะเป็นผงมาให้อยู่แล้ว จึงต้องผ่านกระบวนการแปรรูปหลากหลายขั้นตอนมากกว่ากาแฟสด ทั้งการคั่ว บด สกัด ทำให้เข้ม และทำให้แห้ง โดยอาจจะผลิตออกมาเป็นผงกาแฟอย่างเดียวเลย หรืออาจจะมีการนำไปผสมกับน้ำตาลและครีมเทียมเพื่อให้มีรสชาติกลมกล่อมมากขึ้นอย่างที่ทุกคนรู้จักกันดีในรูปแบบ “กาแฟซอง” วิธีการผลิตก็คือจะใช้เครื่องทำแห้งแบบพ่น (Spray drying) หรือเครื่องทำแห้งแบบระเหิด (Freeze drying) เพื่อให้ได้เป็นเกร็ดผงของกาแฟ ส่วนสำหรับกาแฟสดจะมีขั้นตอนน้อยกว่า เริ่มตั้งแต่การเก็บเมล็ดมาบ่มเพาะ คั่ว และบด ก็สามารถนำไปชงต่อได้เลย ซึ่งบางครั้งก็อาจจะผลิตเป็นเมล็ดกาแฟที่ยังไม่ผ่านการบดก็ได้ ตามที่เรามักจะเห็นในร้านกาแฟนั่นเอง
วิธีการชงดื่ม
ถึงแม้กระบวนการผลิตจะน้อยกว่า แต่สำหรับการชงดื่มนั้น กาแฟสดจะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากกว่าแบบสำเร็จรูป เนื่องจากตัวเมล็ดกาแฟยังไม่ผ่านการบดให้เป็นผง จึงต้องนำมาบดซะก่อน แล้วจึงเอาไปชงตามแต่ละวิธีที่แตกต่างกันตามความชอบของผู้ดื่ม ไม่ว่าจะเป็นการชงแบบผ่านกระดาษกรอง (Drip) ชงแบบใช้น้ำร้อนโดยตรง (French Press) หรือใช้ไอน้ำ (Espresso) ซึ่งแต่ละวิธีก็จะได้รสชาติและความเข้มข้นที่ต่างกันด้วยนะ ส่วนกาแฟสำเร็จรูปนั้นมีวิธีการชงที่ง่ายและรวดเร็วมาก ๆ นั่นก็คือนำผงกาแฟไปชงกับน้ำร้อนก็สามารถดื่มได้แล้ว ถ้าเป็นผงกาแฟอย่างเดียวก็อาจจะเติมน้ำตาล นม หรือครีมเทียมตามใจชอบ แต่ถ้าเป็นกาแฟซองก็มักจะมีการผสมมาให้แล้ว เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องทำอะไรเลย
รสชาติและกลิ่นหอม
กระบวนการผลิตที่มีมากมายหลายขั้นตอนของกาแฟสำเร็จรูปนั้น ย่อมส่งผลถึงรสชาติและกลิ่นหอมดั้งเดิมของกาแฟที่ต้องเสียไป เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับความรวดเร็วและสะดวกสบาย หลาย ๆ คนจึงรู้สึกว่าทำไมชงกาแฟดื่มเองที่บ้านไม่อร่อยเท่าที่ร้านกาแฟ? นั่นก็เป็นเพราะร้านกาแฟมักจะใช้เมล็ดกาแฟสด ซึ่งมีขั้นตอนการชงที่พิถีพิถันมากกว่า มีรสที่เป็นธรรมชาติและมีเสน่ห์มากกว่า รวมทั้งรสชาติความเข้มข้นและกลิ่นหอมก็มากตามไปด้วย
ข้อสรุป ผู้บริโภคชอบแบบไหนมากกว่า?
คงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากสำหรับการจะตีกรอบคำตอบให้ตายตัวค่ะ ว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมการทานกาแฟ หรือ ชื่นชอบกาแฟแบบไหนมากกว่ากัน ซึ่งเราจะขอสรุปว่า กาแฟแต่ละแบบนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ซึ่งข้อแตกต่างดังกล่าว ทำให้มันตีตลาดกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่ม แต่ก็ยังไม่สามารถการันตีได้อีกว่า ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟสดจะไม่ดื่มกาแฟสำเร็จรูป หรือ ผู้ที่สันทัดการดื่มกาแฟสำเร็จรูปจะไม่เข้าไปนั่งดื่มกาแฟสดที่ร้านในวันว่าง เจ้าของแบรนด์จึงสามารถหายห่วงได้ว่า แม้กาแฟทั้ง 2 แบบนี้จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ผู้บริโภคก็มีโอกาสที่จะรับประทานกาแฟทั้งสิ้น
3 ประเภทของกาแฟสำเร็จรูปที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้
นอกจากกาแฟจะถูกแบ่งตามสายพันธุ์ต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถแบ่งกาแฟสำเร็จรูปออกได้เป็น 3 แบบอีกด้วยค่ะ ดังนี้
1.กาแฟกระป๋อง
เป็นกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม ที่เห็นได้ตามร้านค้าทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ให้เลือกด้วยกัน โดยพบว่ากาแฟกระป๋องพร้อมดื่มนี้ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ.1969 โดยผู้ค้นพบเป็นชาวญี่ปุ่นนั่นเอง และกาแฟกระป๋องนี้ ก็นิยมแช่เย็นเพื่อดื่มเป็นเครื่องดื่มเย็น ๆ คลายร้อนกันอีกด้วย ในวันที่อากาศร้อนจัด และหากคุณเองก็ต้องการความกระปรี้กระเปร่า กาแฟกระป๋องก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
2.กาแฟผงสำเร็จรูป
เป็นกาแฟแบบผงสำเร็จรูป ที่สามารถชงให้ละลายในน้ำร้อนได้ทันที ซึ่งก็เป็นกาแฟที่ชงง่ายมาก แถมไม่มีกากกาแฟหลงเหลืออยู่อีกด้วย ส่วนรสชาติของกาแฟนั้น ต้องบอกเลยว่าอร่อยสุด ๆ ทั้งให้ความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้อย่างง่ายดาย โดยพบว่ากาแฟผงสำเร็จรูปนี้นั้น ถูกค้นพบขึ้นในปี ค.ศ.1901 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันและชาวญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งการผลิตกาแฟผงประเภทนี้นั้นจะมีด้วยกัน 2 วิธี ดังนี้
- ผลิตในระบบเย็น คือการนำน้ำกาแฟไปแช่ในช่องแช่แข็งที่มีความเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง และมีความดันสูง จนน้ำกาแฟแข็งและกลายเป็นเกล็ดในที่สุด ซึ่งก็จะได้ผงกาแฟสำเร็จรูป ในรูปแบบของเกล็ดแข็ง สามารถนำมาชงในน้ำร้อนให้ละลายได้ในทันที โดยการผลิตกาแฟผงสำเร็จรูปด้วยวิธีนี้ จะช่วยเก็บรักษากลิ่นของกาแฟให้มีความหอมกลมกล่อมและมีรสชาติที่เข้มข้น อร่อยน่าดื่มมากค่ะ
- ผลิตในระบบพ่นแห้ง เป็นการนำเมล็ดกาแฟมาคั่วแล้วนำมาต้มสักพัก จากนั้นให้นำน้ำกาแฟที่ได้มาพ่นเป็นละอองเข้าไปในอากาศที่ร้อนจัด ให้น้ำระเหยออกไป เหลือแต่ผงกาแฟมาแทนที่ ซึ่งอาจหยุดที่ขั้นตอนนี้ หรือจะทำซ้ำๆ จนผงกาแฟมีลักษณะเป็นเกล็ดฟูก็ได้ ซึ่งก็จะทำให้ผงกาแฟละลายน้ำได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากทีเดียวค่ะ
3. กาแฟสำเร็จรูปชนิดปรุงสำเร็จ
เป็นกาแฟสำเร็จรูปที่เหมือนกับกาแฟผงสำเร็จรูปนั่นเอง แต่สำหรับประเภทนี้ จะมีการปรุงรสชาติให้กลมกล่อมมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ในซอง สามารถชงดื่มได้ทันทีโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลและคอฟฟี่เมตเพิ่มไปทีหลัง ซึ่งก็เป็นประเภทของกาแฟที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ “กาแฟเพื่อสุขภาพ”
สำหรับขั้นตอนของการสร้างแบรนด์กาแฟนั้น ต้องบอกก่อนค่ะว่า ค่อนข้างมีความซับซ้อนอยู่พอควร เนื่องจากเจ้าของแบรนด์ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การศึกษาการตลาดของกาแฟเพื่อสุขภาพ ไปจนถึงการเลือกวัตถุดิบของตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะมีความยาก-ง่ายอย่างไรบ้างนั้น เรามาดูกันค่ะ
ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาตลาดกาแฟ
แม้ในอดีตที่ผ่านมา การขายกาแฟ ก็จะเน้นไปที่รสชาติ แหล่งเพาะปลูก หรือสายพันธุ์ของกาแฟ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันนี้การตลาดได้เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคเริ่มมองหาความคุ้มค่าในตัวผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้กาแฟต้องมีจุดเด่นเพิ่มเติมขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นกาแฟลดความอยากอาหาร กาแฟผสมคอลลาเจน กาแฟบำรุงสุขภาพ ยิ่งใส่จุดเด่นไปมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้กาแฟแบรนด์นั้นได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 2 สร้างความโดดเด่นให้แก่แบรนด์กาแฟของตนเอง
เมื่อการตลาดของกาแฟหลาย ๆ แบรนด์เริ่มเกิดทางตัน ทำให้กาแฟที่ออกสู่ท้องตลาดนั้นเหมือนกันแทบจะทั้งหมด ซึ่งถ้าเจ้าของแบรนด์ต้องการที่จะสร้างแบรนด์กาแฟเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็ อาจเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ ที่สามารถสร้างความโดดเด่นให้สูตรกาแฟได้ พร้อมทั้งมีสรรพคุณต่อผู้บริโภคอีกด้วย เช่น อาจเพิ่มสมุนไพรต่าง ๆ โดยมีงานวิจัยมาว่า กาแฟผสมกระชายขาวจะช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้แข็งแรงและสามารถช่วยลดความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี
ขั้นตอนที่ 3 พึงระลึกว่าสินค้าต้องตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างครอบคลุม
อย่างที่เรากล่าวไปแล้วข้างต้น ว่าถ้าแบรนด์กาแฟของคุณยิ่งมีความแตกต่างจากท้องตลาดมากเท่าไหร่ ก็จะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โดยจากตัวอย่างจากขั้นตอนก่อนหน้านี้ที่กล่าวถึงกาแฟผสมกระชายขาว เป็นตัวอย่างที่สินค้าค่อนข้างมีความโดดเด่น แต่มิใช่เพียงโดดเด่นอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ เพราะสรรพคุณของกระชายขาวยังสามารถตอบโจทย์ผู้ดื่มอย่างครอบคลุมความต้องการของผู้ที่ดื่มกาแฟได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรสชาติและสรรพคุณ
ขั้นตอนที่ 4 ยิ่งสินค้าของแบรนด์ได้รับการการันตีจากงานวิจัย ยิ่งมีผลดี
หากเจ้าของแบรนด์ต้องการสร้างแบรนด์กาแฟให้เป็นที่ยอมรับและสามารถเข้าไปนั่งในใจของลูกค้าได้นั้น ในขั้นตอนการผลิตที่โรงงานผลิตกาแฟ เจ้าของแบรนด์จะต้องเน้นย้ำในเรื่องของส่วนผสม คุณภาพ รสชาติ และการวิจัย ว่ามันจะไม่มีผลกระทบด้านลบต่อลูกค้า ยิ่งถ้ามีการรับรองจากความปลอดภัยจากหน่วยงานต่าง ๆ ก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่แบรนด์สินค้าของเจ้าของแบรนด์เองด้วยค่ะ
ซึ่งจากที่กล่าวมา ทุก ๆ ขั้นตอนของการสร้างแบรนด์มีความสำคัญเหมือนกันหมดค่ะ ซึ่งรวมไปถึงขั้นตอนการผลิตกาแฟเพื่อสุขภาพที่เป็นไปในแบบสำเร็จรูป ซึ่งต้องมีกระบวนการการผลิตจากโรงงานด้วย จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ
ทำไมต้องผลิตกาแฟกับ Charmace
หากเจ้าของแบรนด์ท่านใดยังไม่มีโรงงาน รับผลิตกาแฟ ที่ไหนในใจ ทาง Charmace ขอแนะนำตัวเพื่อฝากไว้พิจารณาค่ะ
-
แนวทางสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล ของ Charmace
เนื่องจาก Charmace เป็นสถานที่ให้บริการแบบ One Step Service ดังนั้น เราจึงมีขั้นตอนการทำงานที่จะคอยให้คำปรึกษาเจ้าของแบรนด์ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยมีขั้นตอนการทำงานหลัก ๆ ต่อไปนี้ค่ะ
แผนกวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารเสริม และกาแฟ
บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด เรามีทีมนักวิทยาศาสตร์ ทีมนักวิจัย และเภสัชกร ที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญระดับสูง ที่จะคอยควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม ไม่ว่าจะเป็น แผนกวิจัยและพัฒนาฝ่ายอาหารเสริม แผนกวิจัยและพัฒนาสารสกัดสมุนไพร ตลอดจน ครีม เครื่องสำอาง ต่าง ๆ อีกทั้งทีมวิจัยและพัฒนาได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ พร้อมทดสอบและพัฒนาสูตรอาหารเสริมให้มีคุณภาพสูง พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ และปรับแต่งสูตรต่าง ๆ ตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม และให้ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
แผนกตรวจสอบความปลอดภัยอาหารเสริม QC Department
หลังจากผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาเรียบร้อย เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม ครีม สบู่ ตลอดจนเครื่องสำอาง ทุกชนิด ด้วยการควบคุมคุณภาพภายใต้มาตรฐานการรับรองระดับโลก GMP HACCP HALAL ทั้งตรวจสอบความปลอดภัยของสารปนเปื้อนทุกชนิด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่าง 100%
กระบวนการผลิตอาหารเสริม (Production)
ทุกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ อาหารเสริม ครีม สบู่ เครื่องสำอาง ทุกชิ้นของบริษัท ได้ผ่านการควบคุมอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพ รับรองคุณภาพและวิธีการผลิตตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด อีกทั้งยังควบคุมดูแล ทำความสะอาดเครื่องจักรในกระบวนการผลิตอยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และผ่านการทดสอบจากห้องแลปมาตรฐานระดับสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความไว้วางใจ ในการนำผลิตภัณฑ์สู่ท้องตลาดไปสู่มือผู้บริโภค จากโรงงานของเรา
-
มีศักยภาพที่เจ้าของแบรนด์สามารถวางใจได้
เราคือบริษัท รับผลิตกาแฟ อาหารเสริม และ สร้างแบรนด์อาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชสำอาง ครีม คุณภาพทุกชนิด อย่างครบวงจร รวมถึงควบคุมการผลิตโดยแพทย์ เภสัชกร และ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาด้านธุรกิจการตลาด เราสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และเราพร้อมที่จะบริการให้คำปรึกษา ในด้านต่าง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความสามารถ และ ประสบการณ์ในธุรกิจการผลิตเครื่องสำอาง และ อาหารเสริมอย่างมืออาชีพค่ะ นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยการการันตีต่าง ๆ เช่น
ทีมวิจัยและพัฒนาชั้นยอด
เรามีทีมงานวิจัยและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีประสบการณ์สูงคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
มาตรฐานของโรงงานระดับสากล
มาตรฐานของโรงงาน CHARMACE ทันสมัยและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
บริการจดทะเบียน อย. ง่ายและเร็ว
บริการจดทะเบียนอย. ด้วยขั้นตอนการขึ้นทะเบียนที่รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก
ดีไซน์บรรจุภัณฑ์แบบมืออาชีพ
เรามีทีมออกแบบบรรจุภัณฑ์มืออาชีพที่ช่วยออกแบบ ให้ผลิตภัณฑ์ดูทันสมัยและตรงตามความต้องการของตลาด
พันธมิตรกับช่องทางการตลาด
เราเป็นพันธมิตรกับช่องทางการตลาดเช่นวิทยุ, TV สื่อออนไลน์, นิตยสารที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการตลาด
พร้อมเป็นที่ปรึกษาทางการตลาด
พร้อมให้คำปรึกษาด้านการตลาดเสมือนเราเป็นหุ้นส่วนกับเจ้าของแบรนด์
บทความที่น่าสนใจ
รับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเองง่ายๆ ครบทุกวงจร
ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!
ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ
บริการของเรา มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ใส่ใจทุกกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐาน
ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ
สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือ สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง หรือ ผู้ที่อยากขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นขายครีมออนไลน์ ขายอาหารเสริมออนไลน์ สามารถปรึกษาข้อมูลได้ที่ บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิว รับผลิตคอลลาเจน รับผลิตกาแฟ อาหารเสริมบำรุงสุขภาพทุกชนิด
มีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็กเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ