ขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม อีกหนึ่งปัจจัยที่เจ้าของแบรนด์ทุก ๆ คนให้ความสำคัญและมักเป็นกังวลถึงขั้นตอนดังกล่าวอยู่เสมอ นั่นเป็นเพราะว่าไม่ว่าคุณจะมีแบรนด์ที่เกี่ยวกับสินค้าประเภทไหน “ขั้นตอนการผลิต” ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะกำหนดคุณภาพของสินค้าของคุณได้เลยโดยตรง ยิ่งโดยเฉพาะ อาหารเสริม ที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการบริโภค ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เจ้าของแบรนด์จะเป็นห่วงและกังวลถึงความยากในขั้นตอนการผลิต ดังนั้น ในบทความนี้ Charmace จึงนำรายละเอียดเบื้องต้นของการผลิตอาหารเสริมเพื่อให้เจ้าของแบรนด์ได้ทราบกัน ทั้งนี้ก็เพื่อคลายความกังวลของขั้นตอนการผลิตลงด้วยนั่นเองค่ะ
ขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม เริ่มยังไง ยากมั้ย เจ้าของแบรนด์ต้องทราบอะไรบ้าง?
สร้างแบรนด์อาหารเสริม ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังเป็นนิยมอย่างมาก เพราะจากวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจสุขภาพ และรักสวยรักงามกันมากยิ่งขึ้น กระแสการดูแลสุขภาพและรูปลักษณ์นี่เองที่ทำให้ตลาดอาหารเสริมในบ้านเราเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ในช่วงที่ตลาดกำลังคึกคักนี้เอง เราลองมาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีกลวิธีใดบ้างที่จะทำให้เราเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมที่ประสบความสำเร็จได้บ้าง แต่ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับอาหารเสริมและตลาดอาหารเสริมกันก่อนนะคะ
อาหารเสริม คือ…
คือ สารอาหารที่ใช้รับประทานเพิ่มเติมจากมื้ออาหารหลัก อาจใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ หรือเพื่อบำรุงสุขภาพตามความเชื่อของบางบุคคล ส่วนสารอาหารที่มักถูกนำมาทำเป็นอาหารเสริม ได้แก่ วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน พืช ผัก สมุนไพรต่าง ๆ เป็นต้น
ขั้นตอนในการผลิตอาหารเสริม พร้อมบริการแบบครบวงจร
สำหรับขั้นตอนการผลิตอาหารเสริมนั้น ไม่ยากอย่างที่เจ้าของแบรนด์หลาย ๆ คนคิด ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้จาก 6 ขั้นตอน ดังนี้…
1. ขั้นตอนการวางแผนอาหารเสริม
ลูกค้าควรศึกษารายละเอียดก่อนว่าต้องการจะผลิตอาหารเสริมประเภทไหน เป็นอาหารเสริมลดความอ้วน หรือ อาหารเสริมบำรุงผิว อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ อาหารเสริมบำรุงสมอง อาหารเสริมกลุ่มผู้หญิง หรือ อาหารเสริมกลุ่มผู้ชาย ซึ่งทางบริษัทมีสูตรให้เลือกมากมาย ทั้งแบบ OEM/ODM
OEM ย่อมาจาก ORIGINAL EQUIPMENT MANUFACTURER
หมายถึง การรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด โดยการพัฒนาสูตรขึ้นใหม่ ลูกค้าสามารถเลือกสารสกัด เลือกสี และ กลิ่น ได้ตามความต้องการ
ODM ย่อมาจาก ORIGINAL DESIGN MANUFACTURER
หมายถึง สูตรมาตรฐานของบริษัท โดยลูกค้าสามารถเลือกเปิดผลิตสูตรที่ทางโรงงานมีไว้ให้เลือกได้เลยค่ะ
2.ขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาสูตร อาหารเสริม
โดยทีมวิจัยผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถคิดค้น และ พัฒนาสูตรตามที่ต้องการได้ค่ะ โดยมีค่าบริการในการพัฒนาสูตร 5,000 บาท ปรับได้ 3 ครั้งค่ะ ซึ่งเป็นค่ามัดจำ โดยจะได้รับคืนหลังจากการทำสัญญาจ้างผลิต
รูปแบบการพัฒนาสูตรอาหารเสริม มีดังนี้
- พัฒนาสูตร จากสินค้ามาตรฐานของบริษัท
- พัฒนาสูตร จากสินค้าตัวอย่างของลูกค้า
- พัฒนาสูตรใหม่ จากผลลัพธ์ และสารสกัดตามความต้องการของลูกค้า
ระยะเวลาในการพัฒนาสูตร ภายใน 7-14 วัน ทางบริษัทจะทำการจัดส่งสินค้าที่พัฒนาสูตร หรือ ปรับปรุงแล้วให้กับลูกค้า พร้อมรายละเอียดสูตร และ แบบประเมินผลทดลองผลิตภัณฑ์ค่ะ
3.ขั้นตอนวางแผนต้นทุนการผลิตสินค้า
มีทีมเซลล์พร้อมให้คำปรึกษา และ วางแผนต้นทุนให้คุณก่อนการผลิตค่ะ โดยลูกค้ายืนยันการสั่งผลิต และ ชำระเงินมัดจำ 50% ของยอดสั่งผลิต
4.ขั้นตอนการออกแบบผลิตภัณฑ์
โดยทีมกราฟฟิคมืออาชีพ ออกแบบแบรนด์มาแล้วมากกว่า 1000 แบรนด์ ที่จะช่วยสร้างจุดขายให้แบรนด์ของคุณได้ค่ะ ระยะเวลาในการออกแบบ โลโก้แบรนด์ และ ฉลากสินค้าหรือกล่องผลิตภัณฑ์ต่างๆ อยู่ที่ 3-7 วันทำการ
5.ขั้นตอนการขออย.และ ยื่นจดทะเบียนการค้า อาหารเสริม ระยะเวลาในการยื่นอยู่ที่ 45-90 วันทำการ
6.ขั้นตอนการให้คำปรึกษาด้านการตลาด ทั้ง offline & online ในการทำการตลาดออนไลน์ บน facebook โดยการคิดโปรโมชั่น และ วางแผนกลยุทธ์ธุรกิจให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักค่ะ
โรงงานผลิตอาหารเสริม ที่ไหนดี วิธีการเลือก ควรเลือกจากปัจจัยใด?
ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าในยุคนี้ ใคร ๆ ก็ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับความนิยมก็คงไม่พ้นธุรกิจอาหารเสริมและเครื่องสำอาง เนื่องจากผู้คนหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกที่เจ้าของแบรนด์จะเลือกขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมก่อนอย่างอื่น ซึ่งในการเริ่มต้นสร้างแบรนด์นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ โดยเฉพาะขั้นตอนการเลือกโรงงาน เพราะบางที่นั้นมีบริการที่ครบวงจรตั้งแต่ทีมคิดสูตรไปจนถึงการจัดจำหน่าย ดังนั้นเจ้าของแบรนด์จึงควรทำความรู้จักรูปแบบต่าง ๆ ของโรงงานไปจนถึงเกณฑ์ในการเลือกเพื่อให้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลังค่ะ
โรงงานรับผลิตอาหารเสริมมีกี่แบบ อะไรบ้าง?
สำหรับโรงงานรับผลิตสินค้าในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบด้วยกันค่ะ ประกอบด้วย
โรงงาน OEM
OEM คือผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้แก่บริษัทที่จะไปขายในแบรนด์ของตัวเอง โดยโรงงานประเภทนี้จะรับจ้างผลิตสินค้าให้แก่แบรนด์ต่าง ๆ ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด แล้วติดชื่อแบรนด์ หรือ จะไม่ตีตราก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าโดยการใช้กระบวนการการผลิตของโรงงานตั้งแต่ฝ่ายผลิต ไปจนถึง เครื่องจักรต่าง ๆ สำหรับการผลิต ซึ่งทำให้ลูกค้าที่มาจ้างโรงงานผลิตนั้น ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยไม่ต้องถึงขั้นจัดตั้งโรงงานหรือซื้อเครื่องจักรผลิตสินค้าเอง ทำให้ผู้จ้างผลิตมีความเสี่ยงน้อย ใช้เงินทุนในการผลิตไม่มาก ซึ่งผลตอบแทนที่ได้ถือว่าคุ้มค่า โรงงานประเภทนี้นั้นมักจะเป็นโรงงานเปิดใหม่ ๆ หรือโรงงานที่ไม่เน้นการสร้างแบรนด์ของตนเองแต่เน้นการผลิตให้แก่แบรนด์อื่น ๆ ที่ต้องการผลิตในจำนวนน้อย หรือไม่มีโรงงานเป็นของตนเอง
จุดเด่นของโรงงานแบบ OEM
- ช่วยลดต้นทุนการผลิต
- เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง
- ง่ายต่อการเปลี่ยนลักษณะหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจ
- มีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการผลิตคอยดูแล
โรงงาน ODM
ODM คือผู้รับจ้างที่ออกแบบและผลิตสินค้าให้แก่บริษัทเพื่อนำไปขายในแบรนด์ตัวเอง ซึ่งโรงงานประเภทนี้ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับประเภท OEM โดยผู้รับจ้างจะมีความสามารถทั้งการผลิตและออกแบบ โดยสามารถพัฒนารูปแบบสินค้าได้เองและนำแบบสินค้านั้นไปเสนอขายให้ลูกค้าที่มีแบรนด์แล้ว หรือเป็นการออกแบบร่วมกัน โดยที่ลูกค้ามีหน้าที่ในกระบวนการการขายและกระจายสินค้าสู่ตลาดเอง การออกแบบเหล่านี้มีทั้งที่เป็น Exclusive คือออกแบบให้เฉพาะราย โดยมีการคิดค่าออกแบบที่แพง เพราะถือว่าลูกค้าเพียงรายเดียวจะได้ประโยชน์ไปอย่างเต็มที่หรือ non- exclusive คือให้สิทธิแก่หลายรายได้ในราคาค่าออกแบบที่ถูกลง
แล้ววิธีการเลือกโรงงาน ต้องเลือกจากอะไร พิจารณาอย่างไรบ้าง?
สำหรับเกณฑ์การพิจารณา
1.โรงงานที่มี GMP
GMP (Good Manufacturing Practice) คือ มาตรฐานการผลิตที่ดี ซึ่งต้องมีการควบคุมกระบวนการตั้งแต่ การจัดซื้อ จัดหา และ การรับเข้าวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ ต่อด้วยการควบคุมกระบวนการผลิตที่ดี มีขั้นตอนที่ควบคุม และ มีการบันทึก ไปจนถึง การควบคุมการจัดเก็บ การตรวจสอบคุณภาพ และ สามารถตรวจสอบกลับได้ตลอดเวลา
2.มีสถานที่ผลิตชัดเจน
สถานที่ตั้งของโรงงานควรมีสัดส่วน มีรั้วรอบขอบชิด สามารถติดต่อได้โดยง่าย เพราะโรงงานปัจจุบันใครก็ทำได้ ทำในบ้าน หรือ ตึกแถวก็มีมากมาย แต่การมีสถานที่ผลิตชัดเจน ย่อมบ่งชี้ถึงความน่าเชื่อถือ และ คุณภาพของสถานที่ผลิต
3.สามารถคิดค้นสูตรและให้คำปรึกษาได้รอบด้าน
โรงงานที่มีการคิดค้นสูตรเอง จะสามารถคิดค้น และ พัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้ ตลอดจนสามารถปรับสูตรต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการได้อย่างง่ายดาย หากมีผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอาง และ อาหารเสริมด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้มีความมั่นใจในคุณภาพของสูตรสินค้านั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งโรงงานที่มีการให้คำปรึกษาด้านการขนส่ง การตลาด การขาย การประสานงานกับภาครัฐ และ อื่น ๆ ย่อมทำให้การดำเนินธุรกิจง่ายขึ้น
4.มีปริมาณขั้นต่ำการผลิตที่ไม่มาก ราคาเหมาะสม
การทำธุรกิจตั้งต้น อาจไม่เกี่ยวกับการลงทุนที่มาก แต่เป็นเรื่องของความเสี่ยงในการลงทุน ดังนั้น โรงงานที่สามารถผลิตสินค้าในปริมาณขั้นต้นที่ต่ำ ก็จะทำให้การลงทุนน้อยลง และ ปันส่วนเงินลงทุนไปทำการตลาด หรือ ดำเนินธุรกิจด้านอื่นได้
สรุป ต้องเลือกโรงงานผลิตอย่างไรให้เหมาะกับแบรนด์ของเรา?
ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ควรทราบถึงขั้นตอนการผลิต ของโรงงานนั้น ๆ ด้วยค่ะ เพื่อป้องกันปัญหาทั้งเรื่องส่วนผสมและฉลากต่าง ๆ เพราะถือเป็นปัจจัยที่ อย. ค่อนข้างเคร่งมาก ๆ
ทั้งนี้ Charmace Cosmed ยังยังเป็น โรงงานรับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์ ที่มีบริการเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการรายใหม่อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น
แผนกวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารเสริม
บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด เรามีทีมนักวิทยาศาสตร์ ทีมนักวิจัย และเภสัชกร ที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญระดับสูง ที่จะคอยควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม ไม่ว่าจะเป็น แผนกวิจัยและพัฒนาฝ่ายอาหารเสริม แผนกวิจัยและพัฒนาสารสกัดสมุนไพร ตลอดจน ครีม เครื่องสำอาง ต่าง ๆ อีกทั้งทีมวิจัยและพัฒนาได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ พร้อมทดสอบและพัฒนาสูตรอาหารเสริมให้มีคุณภาพสูง พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ และปรับแต่งสูตรต่าง ๆ ตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม และให้ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
แผนกตรวจสอบความปลอดภัยอาหารเสริม QC Department
หลังจากผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาเรียบร้อย เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม ครีม สบู่ ตลอดจนเครื่องสำอาง ทุกชนิด ด้วยการควบคุมคุณภาพภายใต้มาตรฐานการรับรองระดับโลกจาก GMP HACCP HALAL อีกทั้งตรวจสอบความปลอดภัยเรื่องสารปนเปื้อนทุกชนิด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่าง 100%
กระบวนการผลิตอาหารเสริม (Production)
ทุกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม ครีม สบู่ เครื่องสำอาง ทุกชิ้นของบริษัท ได้ผ่านการควบคุมอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพ รับรองคุณภาพและวิธีการผลิตตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด อีกทั้งยังควบคุมดูแล ทำความสะอาดเครื่องจักรในกระบวนการผลิตอยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และผ่านการทดสอบจากห้องแล็บมาตรฐานระดับสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความไว้วางใจ ในการนำผลิตภัณฑ์สู่ท้องตลาดไปสู่มือผู้บริโภค จากโรงงานของเรา
ซึ่งเรามีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็กเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ
บทความที่น่าสนใจ
รับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเองง่ายๆ ครบทุกวงจร
ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!
ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ