คอลลาเจนลดลง เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ปัญหามากกว่าเรื่องผิวที่ไม่ควรละเลย

รับผลิตอาหารเสริม,รับผลิตเครื่องสำอางค์,รับผลิตครีม,โรงงานผลิต OEM

คอลลาเจนลดลง เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ปัญหามากกว่าเรื่องผิวที่ไม่ควรละเลย

“คอลลาเจนลดลง เพราะอายุเพิ่มขึ้น” แม้จะเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเผชิญได้ แต่ก็ใช่ว่าเราจะละเลยให้มันเกิดขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าคอลลาเจนนั้นมีภาพจำในการช่วยให้ผิวพรรณของเรานั้นดูเต่งตึงและดูอ่อนเยาว์อยู่ตลอด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนจะมองว่าการขาดคอลลาเจนก็แค่ส่งผลต่อเรื่องผิวพรรณเท่านั้น ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่เลย อย่างไรก็ตาม ภาวะขาดคอลลาเจนของร่างกายนั้นส่งผลต่อเสียมากกว่าที่เราคิดและหากปล่อยไว้คงไม่ดีอย่างแน่นอน ฉะนั้น ผลเสียต่อร่างกายดังกล่าวจะมีอะไรและเราต้องแก้ไขการขาดคอลลาเจนอย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ

คอลลาเจนลดลง เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ปัญหามากกว่าเรื่องผิวที่ไม่ควรละเลย

“คอลลาเจนลดลง เพราะอายุเพิ่มขึ้น” ร่างกายของเราต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง มาดูกัน!

เป็นที่รู้กันดีว่า Collagen (คอลลาเจน) เป็นส่วนสำคัญของร่างกาย โดยร่างกายมนุษย์สามารถผลิต คอลลาเจน ได้เองตามธรรมชาติ มีส่วนช่วยทำให้ผิวตึงกระชับ แข็งแรง บำรุงกระดูกอ่อนและข้อต่อต่างๆ แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น เริ่มเกิดความหย่อนคล้อย ริ้วรอย และปวดข้อกระดูก นั่นหมายความว่า ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้ลดลง จริงหรือไม่? แล้วทำไมคอลลาเจนถึงสำคัญ? เมื่อขาดคอลลาเจนแล้วจะเกิดอะไรขึ้น? มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันค่ะ

ไขข้ออสงสัย! อายุเพิ่มขึ้น “คอลลาเจน” ลดลงจริงไหม?

โดยปกติ ร่างกายคนเราสามารถผลิตคอลลาเจนได้เองตามธรรมชาติ และจะมีการสลายตัวเพื่อรักษาความสมดุล แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นความสามารถในการผลิตคอลลาเจนจะลดน้อยลง แต่อัตราการสลายตัวยังมีเท่าเดิม จึงทำให้คอลลาเจนค่อยๆ ลดลง และไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

จากการศึกษา พบว่า เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เซลล์ไฟโบรบลาสต์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างโปรตีนสองชนิด คือ คอลลาเจนและอิลาสติน จะทำงานน้อยลง ส่งผลให้การผลิตคอลลาเจนลดลงประมาณ 1-1.5% ต่อปี

อาการต่าง ๆ ที่เกิดกับร่างกายเมื่อขาดคอลลาเจน

เพราะ คอลลาเจน คือโปรตีนหลักที่พบได้ในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทุกชนิด มีหน้าที่ยึดเกาะเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย เมื่อร่างกายขาดคอลลาเจน จะส่งผลต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนี้

  • ผิวพรรณ  เกิดริ้วรอยบนผิวหนัง เหี่ยวย่น หย่อนคล้อย ผิวจะบางลง ความยืดหยุ่นลดน้อยลง ไม่เต่งตึง มีความแห้งกร้าน ส่งผลต่อเปลือกตาหย่อนคล้อย เกิดถุงใต้ตา
  • กระดูก, ข้อต่อ  กระดูกอ่อนและกระดูกข้อต่อเสื่อมสภาพ กระดูกพรุน ทำให้เกิดอาการปวดเข่า ข้อเข่าไม่แข็งแรง ข้อเข่าเสื่อม น้ำหล่อเลี้ยงข้อต่อลดลง
  • กล้ามเนื้อ  ไม่สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของกล้ามเนื้อได้ ทำให้การทำงานลดลง ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและการทรงตัว ส่งผลต่อมวลกล้ามเนื้อลดลง ทำให้กล้ามเนื้อลดประสิทธิภาพลง ไม่แข็งแรง
  • เส้นผม  รูขุมขนเกิดความผิดปกติ ขาดคอลลาเจนก็เหมือนขาดตัวควบคุมผิวหนัง ส่งผลให้ผมแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น จนเกิดอาการผมร่วง สุขภาพผมไม่ดี แตกปลายและเปราะง่าย
  • ฟัน คอลลาเจนมีบทบาทสำคัญในการยึดฟันกับเหงือก รักษาความสมบูรณ์ของเนื้อฟันทำให้แข็งแรง และประคองฟันไว้ หากร่างกายขาดคอลลาเจน จะเริ่มมีปัญหากับฟัน เช่น ปวด เสียวฟัน และฟันผุ
  • หลอดเลือด  คอลลาเจนเป็นส่วนหนึ่งของหลอดเลือด หากร่างกายขาดคอลลาเจน จะทำความแข็งแรงของผนังหลอดเลือดลดลง ส่งผลต่ออวัยวะที่มีหลอดเลือดผ่าน อาจมีอาการตาแห้ง ปวดศีรษะ ปัญหาการหายใจ ผื่นที่ผิวหนัง และอื่น ๆ

จากปัญหาที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ทุกคนจะเห็นได้แล้วว่าการขาดคอลลาเจนนั้นส่งผลต่อร่างกายมากกว่าเรื่องผิวพรรณ ดังนั้น การรับประทานอาหารเสริมคอลลาเจนอย่างถูกวิธีก็จะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

“อาหารเสริมคอลลาเจน” ทางออกของร่างกายเมื่อก้าวเข้าสู่วัยคอลลาเจนหมด

เป็นสิ่งที่หลายคนรู้จักและมีการนำมาใช้เพื่อประโยชน์ด้านการดูแลผิวพรรณมาอย่างยาวนาน เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของผิวหนังที่จะช่วยให้โครงสร้างผิวมีความยืดหยุ่น เรียบเนียน ทำให้ได้มีผลิตภัณฑ์คอลลาเจนทั้งทาภายนอก และกินบำรุงจากภายในออกมามากมายเพื่อที่จะใช้ในการทดแทนคอลลาเจนที่จะสูญเสียไปเรื่อย ๆ ดังนั้น อาหารเสริมคอลลาเจนจึงเป็นทางออกที่ง่ายและตอบโจทย์มากที่สุด

คอลลาเจนคืออะไร ?

คอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 80 % ทำหน้าที่คล้ายกับกาวและเป็นโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ โดยคอลลาเจนจะอยู่ที่ผิวหนังชั้นล่าง (ชั้นหนังแท้ หรือ dermis) ฉะนั้นการทาครีมทั่วไปจะไม่มีผลโดยตรงถึงคอลลาเจนในผิวหนัง โดยในร่างกายคนเรามีคอลลาเจนมากถึง 16 ชนิด โดยชนิดที่เราจะสามารถพบได้บ่อย คือ

อาหารเสริมคอลลาเจนผลิตมาจากอะไรได้บ้าง?

เนื่องจากคอลลานั้นเป็นสารจำเป็นที่เป็นโปรตีนโครงสร้างหลักในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหลายชนิดในสัตว์ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ฉะนั้นจึงเป็นโปรตีนที่พบมากที่สุดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วย แต่สำหรับคอลลาเจนที่เป็นอาหารเสริมนั้นสามารถทำการสังเคราะห์ได้จากสัตว์ต่าง ๆ เช่น ปลา หมู วัว รวมทั้งคอลลาเจนนั้นเป็นอาหารเสริมที่มีหลายรูปแบบ ซึ่งบางแบรนด์อาจผลิตออกมาในรูปแบบเจลาติน และเพิ่มส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น วิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระ หรือ กรดไฮยาลูรอนิคเข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลิตภัณฑ์มากขึ้นและตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

คอลลาเจนแบบเม็ด VS คอลลาเจนแบบผง แบบไหนเป๊ะกว่ากัน

จากที่ทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับคอลลาเจนไปแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าคอลลาเจนทั้ง 2 แบบนี้ต่างกันยังไง แบบไหนดีกว่ากัน?

คอลลาเจนแบบเม็ด

เป็นชนิดที่พกพาได้ง่าย ทานได้สะดวก เพราะเป็นแคปซูลที่ไม่มีกลิ่นหรือรสชาติ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ดูดซึมได้ช้ากว่าแบบอื่น ๆ แต่สามารถรับประทานได้ง่าย ช่วยให้ผิวขาวใส อมชมพูขึ้น เผยผิวเนียนละเอียด น่าสัมผัส ขาวใสขึ้นได้ด้วย

คอลลาเจนแบบผงชงดื่ม

สามารถรับประทานคู่กับน้ำดื่มได้เลย เมื่อคอลลาเจนเข้าไปสู่ร่างกายแล้ว จะช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ให้ผิวพรรณที่เหี่ยวย่น กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง สิ่งสำคัญอยู่ที่คอลลาเจนแบบผงชงดื่มนั้นดูดซึมเร็ว และเอาไปใช้งานได้อย่างเต็มที่ แต่คอลลาเจนแบบผงชงดื่มนั้นอาจจะติดปัญหาเรื่องรสชาติกับกลิ่นคาวอยู่บ้างในบางยี่ห้อค่ะ

คอลลาเจน รับประทานตอนไหนดีนะ ??

การรับประทานคอลลาเจน สามารถรับประทานได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนที่ท้องว่าง แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่แนะนำให้ทานคอลลาเจน คือ ช่วงเวลาก่อนนอน เพราะช่วงเวลาที่นอนหลับ ร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ดีที่สุดค่ะ ทั้งนี้ต้องรับประทานให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมด้วย เพื่อให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี

5 ข้อที่ผู้บริโภคควรรู้ก่อนรับประทานอาหารเสริมคอลลาเจน

5 ข้อเกี่ยวกับการทานอาหารเสริมคอลลาเจนที่ผู้บริโภคควรรู้มีดังนี้ค่ะ

1.ห้ามกินมากเกิน

โดยปกติแล้ว ร่างกายของเราจะต้องการคอลลาเจนเพียง 2,000 – 2,500 มิลลิกรัมต่อวันก็พอต่อการใช้งานแล้วค่ะ แต่หากต้องการกินมากกว่านั้นก็ไม่ควรเกิน 7,000 มิลลิกรัม โดยใน 1 วันเราต้องควบคุมอย่าให้กินคอลลาเจนเกิน 10,000 มิลลิกรัม เพราะปริมาณขนาดนี้เกินกว่าที่ร่างกายต้องการไปมาก สิ่งที่ตามมาคือคอลลาเจนจะตกค้างในร่างกาย และสามารถก่อโรคให้ร่างกายของเราได้ค่ะ

2.ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนกิน

ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนการกินอาหารเสริมคอลลาเจน เนื่องจากอาจเป็นไปได้ว่าในอาหารเสริมนั้นมีส่วนที่ลดประสิทธิภาพของยาที่เรากินประจำหรือเมื่อกินคู่กับยาแล้วอาจเกิดปฏิกิริยาบางอย่างซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกายได้ โดยผู้ที่เป็นโรคไต โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคมะเร็ง โรคลิ่มเลือดอุดตัน รวมถึงคุณแม่ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินอาหารเสริมคอลลาเจนค่ะ

3.แพ้อาหารทะเลควรหลีกเลี่ยง

คนที่มีอาการแพ้อาหารทะเลควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารเสริมคอลลาเจนค่ะ เพราะในอาหารเสริมคอลลาเจนส่วนมากนั้นมักจะสกัดมาจากปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งอาจส่งผลต่อคนที่แพ้อาหารทะเลได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงก็อาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เลย

4.แม้คอลลาเจนจะมีประโยชน์ต่อกระดูก แต่ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ร่วมด้วยเสมอ

คอลลาเจนสามารถช่วยให้อาการปวดเข่าและข้อเข่าเสื่อมทุเลาลงได้ ตราบใดที่ผู้ป่วยยังคงได้รับการรักษาแผนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการกินยา การทำกายภาพบำบัดและออกกำลังกาย ร่วมกับการกินคอลลาเจนเสริมด้วย สามารถช่วยให้อาการข้ออักเสบทุเลาลงเร็วกว่าการรักษาแบบเดี่ยว ๆ ค่ะ

5.ดูแลผิวควบคู่ไปกับการทานคอลลาเจนจึงจะเห็นผล

การกินอาหารเสริมคอลลาเจนเพียงอย่างเดียวโดยที่เราไม่ได้ดูแลผิวในด้านอื่นเลย อาจไม่สามารถทำให้ผิวอ่อนเยาว์ได้ตามที่ตั้งใจค่ะ เนื่องจากมีอีกหลายปัจจัยที่จะช่วยบำรุงผิวหรือเร่งให้เกิดความเสียหายต่อผิวได้ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด การเผชิญกับฝุ่น ควันพิษ อาหาร การพักผ่อน ความเครียด หรือแม้แต่การสูบบุหรี่และการสูดดมควันจากผู้อื่น ดังนั้นต่อให้เราตัดสินใจที่จะกินอาหารเสริมคอลลาเจนเพื่อช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์แล้ว ก็ต้องดูแลผิวและบำรุงผิวในด้านอื่น ๆ ร่วมด้วยค่ะ

ทั้งนี้จากข้อมูลที่มีในปัจจุบัน ยังไม่สามารถระบุปริมาณของคอลลาเจนที่ควรรับประทานต่อวันและระยะเวลาว่าควรรับประทานนานแค่ไหนถึงจะเหมาะสม ปริมาณคอลลาเจนต่อวันและระยะเวลาแตกต่างกันตามแต่ละงานวิจัยและชนิดของคอลลาเจนที่รับประทาน ดังนั้นจึงควรต้องรอการศึกษาอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคตค่ะ

อย่างไรก็ตาม นักโภชนาการได้แนะนำว่า การทานคอลลาเจนนั้น สามารถทานได้ทุกเวลาตามสะดวกตามต้องการ ไม่ว่าจะรับประทานควบคู่กับอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ชอบก็ได้ เพราะว่าคอลลาเจนนั้นไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ถ้าหากอยากให้คอลลาเจนส่งผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด คือรับประทานตอนที่ท้องยังว่าง เพราะช่วงเวลาที่ท้องว่างนั้น ระบบการทำงานของร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สิ่งที่สำคัญเลยถ้าหากว่าอยากให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจมากที่สุด คือควรรับประทานคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยค่ะ

Charmace รับผลิต อาหารเสริม เราสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล

เราคือบริษัท รับผลิตอาหารเสริม และ สร้างแบรนด์อาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชสำอาง ครีม คุณภาพทุกชนิด อย่างครบวงจร รวมถึงควบคุมการผลิตโดยแพทย์ เภสัชกร และ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาด้านธุรกิจการตลาด เราสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และเราพร้อมที่จะบริการให้คำปรึกษา ในด้านต่างๆ โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความสามารถ และ ประสบการณ์ในธุรกิจการผลิตเครื่องสำอาง และ อาหารเสริมอย่างมืออาชีพค่ะ นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยการการันตีต่าง ๆ เช่น

แผนกวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารเสริม

บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด เรามีทีมนักวิทยาศาสตร์ ทีมนักวิจัย และเภสัชกร ที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังเชียวชาญระดับสูง ที่จะคอยควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม ไม่ว่าจะเป็น แผนกวิจัยและพัฒนาฝ่ายอาหารเสริม แผนกวิจัยและพัฒนาสารสกัดสมุนไพร ตลอดจน ครีม เครื่องสำอาง ต่างๆ อีกทั้งทีมวิจัยและพัฒนาได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมทดสอบและพัฒนาสูตรอาหารเสริมให้มีคุณภาพสูง พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ และปรับแต่งสูตรต่างๆ ตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม และให้ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

แผนกตรวจสอบความปลอดภัยอาหารเสริม QC Department

หลังจากผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาเรียบร้อย เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม ครีม สบู่ ตลอดจนเครื่องสำอาง ทุกชนิด ด้วยการควบคุมคุณภาพภายใต้มาตรฐานการรับรองระดับโลก GMP HACCP HALAL ทั้งตรวจสอบความปลอดภัยของสารปนเปื้อนทุกชนิด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่าง 100%

กระบวนการผลิตอาหารเสริม (Production)

ทุกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม ครีม สบู่ เครื่องสำอาง ทุกชิ้นของบริษัท ได้ผ่านการควบคุมอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพ รับรองคุณภาพและวิธีการผลิตตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด อีกทั้งยังควบคุมดูแล ทำความสะอาดเครื่องจักรในกระบวนการผลิตอยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และผ่านการทดสอบจากห้องแลบมาตรฐานระดับสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความไว้วางใจ ในการนำผลิตภัณฑ์สู่ท้องตลาดไปสู่มือผู้บริโภค จากโรงงานของเรา

ท้ายที่สุด หลายๆ คนคงเห็นแล้วนะคะว่า กว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ หรือ อาหารเสริม มาแต่ละตัว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สิ่งที่สำคัญมากๆ คือ เจ้าของแบรนด์ต้องพิจารณาเลือกทีมสร้างแบรนด์และโรงงานผลิตให้ดี เพราะหากมีขั้นตอนใดผิดพลาด ก็จะมีปัญหาตามมาได้เรื่อยๆ ค่ะ ทั้งนี้ ในเรื่องของเวลาดำเนินการการผลิตจำเป็นต้องใช้เวลา อย่างต่ำคือประมาณ 12-16 สัปดาห์ (ซึ่งนับจากขั้นตอนสั่งซื้อวัตถุดิบ) เจ้าของแบรนด์สามารถใช้เวลากับสินค้าของตนเองได้เต็มที่ เพื่อให้สินค้าออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุดค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

สร้างจุดขายให้แบรนด์ กับ สารประกอบสุดฮิต ที่ตลาดต้องการ เพิ่มยอดขายหลายร้อยล้าน !!

ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!

ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ

สนใจผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างแบรนด์ ของตัวเอง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ใบเสนอราคา สินค้าตัวอย่าง
Call Center : 063-6246599


โรงงานผลิตอาหารเสริม

โรงงานรับผลิตอาหารเสริม เวชสำอาง เครื่องสำอาง ครีมทุกชนิดอย่างครบวงจร
เราสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล

ทำไมต้อง  ผลิตอาหารเสริมกับเรา
บริการของเรา
มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร
สินค้าแนะนำ 12 รายการ สูตรระดับพรีเมี่ยม