[:th]กินไฟเบอร์แล้วคลื่นไส้ ผลกระทบที่สามารถเกิดขึ้นได้ในการรับประทานไฟเบอร์ หลาย ๆ คนอาจมองว่าอาการคลื่นไส้เป็นเพียงอาการเล็ก ๆ ที่ไม่อันตราย สามารถหายเองได้ แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เนื่องจากอาการคลื่นไส้นั้นอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของอาการอันตรายอื่น ๆ ที่อาจตามมาก็เป็นได้ ดังนั้น ทุก ๆ ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ไม่ควรปล่อยไว้จนกลายเป็นภาวะรุนแรง
“กินไฟเบอร์แล้วคลื่นไส้” อาการข้างเคียงที่ไม่ควรฝืนกินต่อ เพราะอาจเป็นอันตราย
อยากผอม อยากลดพุง อยากถ่ายคล่อง ใครๆ ก็หันหน้าเข้าหาการ “ดีท็อกซ์ลำไส้” เพราะเข้าใจว่าเป็นการขับถ่ายเอาของเสียที่อยู่ในร่างกายออกไปจนหมด รู้สึกได้ถึงความโล่งสบายท้อง ลำไส้สะอาดปราศจากเชื้อโรค แต่จริง ๆ แล้ว การดีท็อกซ์ลำไส้ไม่ได้ดีต่อร่างกายเสมอไป หนำซ้ำยังอาจเสี่ยงเสียชีวิตได้อีกด้วยหากรับประทานแบบผิดวิธี ซึ่งอาการ “คลื่นไส้” ก็เป็นหนึ่งในข้างเคียงที่พึงระวัง เพราะสามารถนำมาสู่ภาวะอันตรายอื่น ๆ ได้หากฝืนกินต่อค่ะ
กินไฟเบอร์แล้วคลื่นไส้ เกิดจากอะไร แก้ให้หายได้หรือเปล่า?
เมื่อพูดถึงประโยชน์ของ “ไฟเบอร์” หรือ “ใยอาหาร” สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกมักหนีไม่พ้นในเรื่องของการขับถ่าย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดเนื่องจากไฟเบอร์มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้เป็นปกติและสามารถขับของเสียออกมาได้ ด้วยเหตุนี้คนที่เป็นท้องผูกเรื้อรังจึงมักจะหาไฟเบอร์มารับประทานเพื่อช่วยในการขับถ่ายอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม การกินอาหารเสริมโดยเฉพาะไฟเบอร์นั้น ควรกินอย่างระมัดระวังและรู้วิธีการกินที่ถูกต้องด้วย เพราะหากกินผิดวิธีอาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิดได้
ทำความรู้จัก “อาหารเสริมไฟเบอร์” คืออะไร?
ไฟเบอร์ หรือ ใยอาหาร เป็นอีกชื่อหนึ่งของเซลลูโลส สามารถพบได้ในผัก ผลไม้ และธัญพืช เมื่อรับประทานอาหารเหล่านี้ ร่างกายของคนเราจะไม่สามารถย่อยสลายเองได้ รวมถึงไฟเบอร์จะไม่ถูกย่อยในระบบทางเดินอาหาร (ยกเว้นในลำไส้ใหญ่) และไม่ให้พลังงาน อย่างไรก็ตามไฟเบอร์เป็นสารอาหารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในด้านระบบขับถ่าย ทำให้ขับถ่ายคล่อง แก้อาการขับถ่ายยากหรือท้องผูก ดังนั้นคนเราจึงควรรับประทานไฟเบอร์ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเป็นประจำทุกวัน โดยอาหารเสริมไฟเบอร์คือ ใยอาหารเทียมที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาสำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับไฟเบอร์ตามธรรมชาติได้มากพอ จึงจำเป็นต้องทานไฟเบอร์แบบเสริมเพิ่มด้วยนั่นเอง
“ไฟเบอร์” มีกี่ชนิด อะไรบ้าง?
สามารถแบ่งออกได้ 2 ชนิดหลัก ๆ ได้แก่
1.มีฤทธิ์กระตุ้นลำไส้
เป็นชนิดที่จะได้ผลในทันทีทันใด เพราะช่วยให้ลำไส้บีบตัว และผลักอุจจาระออกมา แต่เนื่องจากออกฤทธิ์กระตุ้นต่อลำไส้โดยตรง หากทานเป็นระยะเวลายาวนานต่อเนื่อง อาจทำให้ลำไส้เกิดอาการ “ติดยาระบาย” และหากปล่อยไว้ลำไส้ก็จะดื้อยามากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ยาระบายไม่ได้ผลในที่สุด
2.ไฟเบอร์และโปรไบโอติก
ช่วยปรับสมดุลลำไส้ เพราะจุลินทรีย์โปรไบโอติกช่วยย่อยอาหาร เพิ่มการบีบตัวของลำไส้ และไฟเบอร์ก็ช่วยเป็นส่วนประกอบของอุจจาระให้ขับถ่ายง่ายขึ้น เนื่องจากไม่ได้มีผลทำให้ลำไส้ดื้อยา จึงสามารถทานต่อเนื่องเพื่อให้ “อุจจาระมีไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบ” ในทุก ๆ วันได้
ไฟเบอร์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
นอกจากเรื่องระบบลำไส้และการขับถ่ายแล้ว หลาย ๆ ท่านอาจยังไม่ทราบว่าไฟเบอร์นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากค่ะ เช่น…
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ ทำให้ลำไส้บีบตัวเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น บรรเทาอาการท้องผูกขับถ่ายยาก
- ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ กำจัดของเสียที่คั่งค้าง และเป็นเหมือนตัวช่วยทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลรวมถึงไขมันเร็วเกินไป ลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
- ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะถ่ายอุจจาระได้ง่ายและไม่มีของเสียในร่างกาย
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เพราะบริเวณลำไส้มีจุลินทรีย์อยู่เป็นจำนวนมาก และระบบภูมิคุ้มกันกว่า 70% อยู่ที่ลำไส้
- ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มนานมากขึ้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่งเพราะขับถ่ายเป็นปกติไม่มีของเสียในร่างกาย
อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ต่าง ๆ ดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรารับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและวิธีที่ถูกต้องด้วยนะคะ เพราะหากกินผิดวิธีอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ค่ะ
ผลข้างเคียงหากกินไฟเบอร์ไม่ถูกตามวิธี
แม้ว่าปริมาณของไฟเบอร์มีการระบุถึงข้อบ่งใช้ว่าสามารถกินเกินได้เท่าไร แต่การได้รับไฟเบอร์ในปริมาณที่สูงอาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารได้ เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย หรือถ้าได้รับน้ำน้อยอาจส่งผลอันตรายทำให้ลำไส้อุดตันได้ และอาจทำให้ท้องเสียหรือขาดสารอาหารอย่างอื่นได้ ดังนั้นจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างระมัดระวังและคอยดูอาการต่าง ๆ ของร่างกายด้วยนะคะ
รู้หรือไม่! อาการคลื่นไส้ เกิดจากกินไฟเบอร์ในปริมาณที่มากเกิน
ในกรณีที่มีอาการดังต่อไปนี้ ไม่ควรทำตามวิธีในข้างต้นหรือหายามารับประทานเอง และควรรีบไปแพทย์ทันที เนื่องจากอาการที่เกิดขึ้นอาจเป็นสัญญาณของภาวะผิดปกติที่รุนแรงทางร่างกายได้
- คลื่นไส้ อาเจียน
- มีไข้สูง
- ไม่สามารถผายลมออกมาได้
- อุจจาระไม่ออกหลังจากกินไฟเบอร์มากเกินไป
หลังจากที่อาการต่าง ๆ ดีขึ้นแล้ว ให้กลับไปกินไฟเบอร์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ให้พยายามรับประทานในปริมาณที่ไม่มากเกินไป โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณให้ครบ 25 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่แนะนำสำหรับผู้ใหญ่ที่สุขภาพปกติ ภายในระยะเวลาอันสั้น แต่ให้ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณทีละน้อยไปพร้อมกับสังเกตอาการของตนเองอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับผลกระทบจากการกินไฟเบอร์มากเกินไปซ้ำ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
มาดูกัน! เทรนด์อาหารเสริม แบบเครื่องดื่ม ปี 2023 มีอะไรที่น่าจับตา
เทคนิคเพิ่มยอดขาย อาหารเสริมคอลลาเจน ธุรกิจรุ่งพุ่งแรง !!
Charmace สร้างแบรนด์อาหารเสริม ที่ปรึกษา พร้อมรับผลิต จบในที่เดียว[:]