[:th]ตลาดอาหารเสริม 2568 จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไรต่อไป? เป็นคำถามที่เจ้าของแบรนด์หรือผู้กำลังสนใจจะสร้างแบรนด์นั้นต้องทำการศึกษาค่ะ เนื่องจาก “ตลาดอาหารเสริม” จะเป็นปีที่การแข่งขันและความต้องการในตลาดสูงขึ้น ด้วยกระแสสุขภาพที่มาแรงและผู้บริโภคหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการมองหาอาหารเสริมที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ชะลอวัย หรือดูแลสุขภาพจิต การเข้าใจแนวโน้มและพฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างหรือขยายแบรนด์ในตลาดนี้ ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไร มาติดตามไปพร้อม ๆ กันค่ะ
ตลาดอาหารเสริม 2568 แนวโน้มและโอกาสเติบโตในยุคที่เทรนด์สุขภาพและความงามกำลังเป็นกระแส
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทรนด์รักสุขภาพได้นำมาซึ่งธุรกิจเกิดใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบริการฟิตเนส เทรนเนอร์ส่วนตัว นักโภชนาการ ตลอดจนธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพหรืออาหารเสริมที่ยังคงเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะไปได้ดีในระยะยาวเนื่องจากสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย บริการด้านสุขภาพจึงเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ฉะนั้น อาหารเสริมจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกธุรกิจที่น่าสนใจ แต่หลายคนยังไม่รู้ว่าในปี 2568 ที่จะถึงนี้จะมีแนวโน้มในด้านการตลาดเป็นอย่างไร ในบทความนี้ Charmace จึงรวบรวมบทความมาฝากค่ะ
ภาพรวมตลาดสินค้าอาหารเสริมปี 2568 ที่เจ้าของแบรนด์ต้องศึกษาเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม
ตลาดอาหารเสริมในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการตื่นตัวด้านสุขภาพของผู้บริโภคทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงสู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันโรค และความต้องการผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคล เช่น วิตามิน คอลลาเจน โปรไบโอติก และสารบำรุงผิว เช่น Hyaluronic Acid
ทั้งนี้ ในประเทศไทย กลุ่มผู้สูงอายุและคนรุ่นใหม่ยังเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ โดยความนิยมในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจิต สุขภาพร่างกาย และรูปลักษณ์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตลาดนี้ยังได้รับการกระตุ้นจากเทคโนโลยี เช่น AI ในการแนะนำผลิตภัณฑ์ และการวิจัยพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายค่ะ
อย่างไรก็ดี ตลาดอาหารเสริมในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องด้วยอัตราเฉลี่ยประมาณ 8-10% ต่อปีทั่วโลก สะท้อนถึงมูลค่าที่สูงถึง 269.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2573 เลยทีเดียวค่ะ
ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตประกอบด้วย…
พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง
- ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสูงอายุที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ความสนใจด้านสุขภาพจิต เช่น การลดความเครียดและปัญหาการนอนหลับ กลายเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ในตลาด
เทคโนโลยีและนวัตกรรม
- AI ถูกนำมาใช้เพื่อแนะนำอาหารเสริมที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นส่วนผสมใหม่ เช่น โปรไบโอติก คอลลาเจน และ Hyaluronic Acid
ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
- ผลิตภัณฑ์กลุ่มเสริมภูมิคุ้มกันยังเป็นที่นิยมสูง หลังสถานการณ์ COVID-19 โดยเฉพาะวิตามินที่ครองตลาดกว่า 30%
- เทรนด์ “Beauty From Within” หรือผลิตภัณฑ์ที่บำรุงความงามจากภายใน ได้รับความสนใจ เช่น อาหารเสริมที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ปกป้องคอลลาเจน และชะลอความแก่
โอกาสในประเทศไทย
- ตลาดในประเทศมีความโดดเด่นในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้สนใจรูปลักษณ์ โดยผู้ประกอบการเน้นพัฒนานวัตกรรมที่ต่างจากคู่แข่ง และใช้จุดแข็งของวัตถุดิบที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
ความท้าทาย
- การแข่งขันสูงทั้งด้านราคา คุณภาพ และนวัตกรรม ทำให้การสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการยืนหยัดในตลาดระยะยาว
จากข้อมูลเบื้องต้นที่ได้กล่าวมาก็แสดงให้เห็นแล้วค่ะว่า ภาพรวมตลาดอาหารเสริมในปี 2568 จึงมีศักยภาพการเติบโตที่น่าสนใจ ทั้งในด้านมูลค่า การพัฒนาเทคโนโลยี และความต้องการที่ขยายตัวต่อเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจังมากขึ้นค่ะ
3 กลยุทธ์แผนการตลาดอาหารเสริม เพื่อสร้าง Branding และตัวสินค้าให้ปังและตอบโจทย์ลูกค้าในปี 2568
SCB EIC วิเคราะห์ว่า แม้ตลาดอาหารเสริมจะยังขยายตัวได้ดีในช่วง 10-15 ปีข้างหน้า แต่แนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไปและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจะส่งผลให้ตลาดอาหารเสริมในไทยมีมูลค่าตลาดลดลงเฉลี่ยราว 8% ต่อปี
แม้ว่าในช่วงปี 2015-2030 ตลาดอาหารเสริมในไทยจะยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ดีต่อเนื่องราว 7% ต่อปี โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกระแสรักสุขภาพ รายได้ประชากรที่สูงขึ้น และการขยายตัวของช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ อย่างไรก็ดี EIC พบว่าตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป มูลค่าตลาดอาหารเสริมในไทยจะเริ่มมีขนาดเล็กลงจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
จากผลสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และพืชสมุนไพรในยุคปัจจุบัน พบว่ากลุ่มผู้บริโภคช่วงอายุเกิน 50 ปีให้เหตุผลว่าอาหารเสริมในปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่มีประสิทธิภาพทำให้หยุดบริโภคและหันไปหาวิธีอื่นในการดูแลสุขภาพแทน เช่น ออกกำลังกายบ่อยขึ้น และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เป็นต้น ประกอบกับกระแสจากธรรมชาติ และความต้องการสินค้าที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น (personalized) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสินค้าที่มีในตลาดปัจจุบันไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มนี้อีกต่อไป
ฉะนั้น 3 กลยุทธ์ทางการตลาดจะต้องตอบโจทย์ปัญหาตามกระแสดังกล่าวด้วย นั่นคือ…
1.เสนอผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ
กลยุทธ์ประการแรกคือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ของกลุ่มผู้สูงอายุ จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติระบุว่าในปี 2030 ไทยจะมีสัดส่วนผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) ถึง 20% ของจำนวนประชากรไทยทั้งหมด ซึ่งโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว ส่งผลให้แนวโน้มความต้องการบริโภคอาหารเสริมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ เพื่อให้สามารถพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้สูงอายุได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยบำรุงสมองและความจำ รวมถึงอาหารเสริมที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ที่ส่วนใหญ่เกิดกับกลุ่มผู้สูงอายุ เช่น โรคหัวใจและความดัน กระดูกและข้อเสื่อม เบาหวาน มะเร็ง รวมทั้งโรคที่เกี่ยวกับสายตาและการได้ยิน เป็นต้น
2.เน้นวัตถุดิบธรรมชาติแทนสารสังเคราะห์
กลยุทธ์ต่อมาคือ การคิดค้นและพัฒนาอาหารเสริมที่ใช้วัตถุดิบจากสมุนไพรหรือสารสกัดจากธรรมชาติทดแทนอาหารเสริมสังเคราะห์เพื่อให้สอดรับกับกระแสคืนสู่ธรรมชาติ (Back to the Nature) ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ซึ่ง EIC พบว่าในช่วงปี 2011-2015 ตลาดอาหารเสริมที่มาจากธรรมชาติมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมสูงถึง 13% ต่อปี ขณะที่อาหารเสริมสังเคราะห์ทั่วไปเติบโตสะสมเฉลี่ยเพียง 7-8% ต่อปีเท่านั้น สะท้อนได้อย่างชัดเจนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มาจากธรรมชาติ ทั้งในแง่ความปลอดภัย รวมถึงผลข้างเคียงต่อสุขภาพที่ต่ำกว่าอาหารเสริมสังเคราะห์
อย่างไรก็ตาม พบว่าปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มาจากธรรมชาติยังมีขายในท้องตลาดเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น เช่น ซุปไก่สกัด ผลไม้สกัด หรือสมุนไพรบางชนิด ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการวิจัยและพัฒนาเพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรและสารสกัดจากธรรมชาติยังมีอยู่น้อย จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับผู้เล่นในตลาดอาหารเสริมในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสมุนไพรหรือสารสกัดจากธรรมชาติได้อีกมาก
3.จัดอาหารเสริมเฉพาะบุคคล
กลยุทธ์ประการสุดท้ายคือ การให้บริการผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเฉพาะบุคคล (personalized supplements) โดยอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภคในรูปแบบของข้อมูลเชิงกายภาพ หรือ DNA เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำและผลิตให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากขึ้นนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เรื่องของการตลาดเป็นเรื่องสำคัญของ ธุรกิจอาหารเสริม เพราะการที่จะขายได้หรือไม่ได้ การตลาดมีส่วนอยู่มาก ทำให้จะต้องมีการวางแผนและศึกษาข้อมูลทางการตลาดให้ดี และมั่นใจก่อนที่จะวางขาย และปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ โดยหลายโรงงานก็มีบริการให้คำปรึกษาด้านการตลาดเช่นกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารเสริมต้องศึกษาทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มเพื่อสร้างจุดขายที่แตกต่างและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงการปรับใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการร่วมมือทางธุรกิจกับผู้เล่นอื่นในห่วงโซ่อุปทาน เช่น สถาบันวิจัยสมุนไพร หรือโรงพยาบาล สู่การพัฒนาโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาวค่ะ
Charmace Cosmed โรงงานผลิตเครื่องสำอาง สร้างธุรกิจ พัฒนาสูตรและบริการอื่น ๆ ครบวงจร
เราคือบริษัท รับผลิตอาหารเสริม และ สร้างแบรนด์อาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชสำอาง ครีม คุณภาพทุกชนิด อย่างครบวงจร รวมถึงควบคุมการผลิตโดยแพทย์ เภสัชกร และ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาด้านธุรกิจการตลาด เราสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และเราพร้อมที่จะบริการให้คำปรึกษา ในด้านต่าง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความสามารถ และ ประสบการณ์ในธุรกิจการผลิตเครื่องสำอาง และ อาหารเสริมอย่างมืออาชีพค่ะ
แผนกวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารเสริม
บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด เรามีทีมนักวิทยาศาสตร์ ทีมนักวิจัย และเภสัชกร ที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญระดับสูง ที่จะคอยควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม ไม่ว่าจะเป็น แผนกวิจัยและพัฒนาฝ่ายอาหารเสริม แผนกวิจัยและพัฒนาสารสกัดสมุนไพร ตลอดจน ครีม เครื่องสำอาง ต่าง ๆ อีกทั้งทีมวิจัยและพัฒนาได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ พร้อมทดสอบและพัฒนาสูตรอาหารเสริมให้มีคุณภาพสูง พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ และปรับแต่งสูตรต่าง ๆ ตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม และให้ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
แผนกตรวจสอบความปลอดภัยอาหารเสริม QC Department
หลังจากผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาเรียบร้อย เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม ครีม สบู่ ตลอดจนเครื่องสำอาง ทุกชนิด ด้วยการควบคุมคุณภาพภายใต้มาตรฐานการรับรองระดับโลกจาก GMP HACCP HALAL อีกทั้งตรวจสอบความปลอดภัยเรื่องสารปนเปื้อนทุกชนิด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่าง 100%
กระบวนการผลิตอาหารเสริม (Production)
ทุกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม ครีม สบู่ เครื่องสำอาง ทุกชิ้นของบริษัท ได้ผ่านการควบคุมอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพ รับรองคุณภาพและวิธีการผลิตตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด อีกทั้งยังควบคุมดูแล ทำความสะอาดเครื่องจักรในกระบวนการผลิตอยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และผ่านการทดสอบจากห้องแล็บมาตรฐานระดับสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความไว้วางใจ ในการนำผลิตภัณฑ์สู่ท้องตลาดไปสู่มือผู้บริโภค จากโรงงานของเรา
บทความที่น่าสนใจ
รับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเองง่ายๆ ครบทุกวงจร
ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!
ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ[:]