“สูตรอาหารเสริม” สร้างยากไหม ต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน?

สูตรอาหารเสริม อีกขั้นตอนหนึ่งของการสร้างแบรนด์อาหารเสริมที่ถือว่ายากพอควรค่ะ เนื่องจากเจ้าของแบรนด์บางท่านไม่เคยมีประสบการณ์การคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์แบบนี้มาก่อน จึงอาจไม่รู้ว่าในการคิดค้นสูตรเช่นนี้ต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน ต้องคิดสูตรอย่างไร หาวัตถุดิบจากที่ไหน หาโรงงานที่รับผลิตอย่างไร ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคำถามที่เจ้าของแบรนด์ยังคงสงสัยทั้งสิ้น อย่างไรก็ดีค่ะ ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าหากอยากสร้างธุรกิจอาหารเสริมแล้วต้องคิดสูตรจะต้องทำยังไง เริ่มจากตรงไหนก่อน เพื่อไขข้อสงสัยของทุกคนค่ะ

"สูตรอาหารเสริม" สร้างยากไหม ต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน?

สูตรอาหารเสริม อยากสร้างสูตรสินค้าเองต้องเริ่มจากตรงไหน

อาหารเสริม ในปัจจุบันมีการจำหน่ายอย่างมากมายในท้องตลาด ซึ่งในแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เพราะสมัยนี้คนส่วนใหญ่หันมาสนใจเรื่องสุขภาพและผิวพรรณมากขึ้น และอาหารเสริมก็สามารถช่วยในเรื่องเหล่านี้ได้ ดังนั้นนอกจากแบรนด์เก่าที่อยู่ในตลาดมานานแล้ว ก็ยังมีแบรนด์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่เจ้าของแบรนด์ต้องรับศึกหนักในการคิดค้นสูตรเพื่อให้แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่งและเป็นการทำการตลาดไปในตัวด้วยนั่นเองค่ะ

วิธีสร้างสูตรสำหรับ “อาหารเสริม” แบบมืออาชีพ

จริงอยู่ที่ขั้นตอนการคิดค้นสูตรเป็นอีกหนึ่งในหลาย ๆ ขั้นตอนที่เจ้าของแบรนด์คิดว่ายากและเริ่มต้นไม่ถูก ซึ่งนั่นเป็นเพราะเจ้าของแบรนด์ยังไม่ทราบ Flow ที่ชัดเจนนั่นเองค่ะ โดยขั้นตอนของการคิดค้นสูตรสามารถทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ได้ ประกอบด้วย

เลือกประเภทอาหารเสริม

ในขั้นตอนแรกก่อนจะเลือกวัตถุดิบต่าง ๆ มาทำเป็นสูตร เราจะต้องเลือกประเภทของอาหารเสริมก่อน เพราะประเภทอาหารเสริมจะเป็นตัวกำหนดว่าวัตถุดิบหลักที่จะใช้คืออะไร อย่างเช่นถ้าอยากทำอาหารเสริมที่ช่วยให้ผิวขาวก็เลือกทำกลูต้า หรือคอลลาเจน ถ้าหากอยากได้อาหารเสริมควบคุมน้ำหนัก อาจจะเลือกเป็นอาหารลดความอ้วน หรือ ดีท็อกซ์

ปรึกษาและพูดคุยกับฝ่ายขาย

แน่นอนว่าในขั้นต่อไปหลังจากเลือกประเภทอาหารเสริมที่ต้องการได้แล้ว ให้ทำการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย เพื่อปรึกษาถึงความต้องการของตัวเอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายนั้นจะสามารถแนะนำได้ว่าตอนนี้วัตถุดิบไหนมาแรง หรือใช้ตัวไหนถึงจะโดดเด่น

เลือกสารสกัดที่ตรงใจ

อย่างต่อมานั้นให้เราทำการเลือกสารสกัดที่ต้องการให้เป็นตัวหลักก่อน เพราะสารสกัดตัวหลักจะเป็นจุดสนใจของผู้บริโภคได้ดีทีเดียว ยิ่งเป็นสารสกัดที่มีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใครหรือได้รับความนิยมในตอนนี้ก็จะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ ดังนั้นควรเลือกสารสกัดตัวหลักที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้

วิเคราะห์และพัฒนาสูตร

มาถึงขั้นสุดท้ายก่อนนำสูตรไปผลิตเป็นอาหารเสริม นั่นก็คือการวิเคราะห์และพัฒนาสูตร โดยให้เลือกสารสกัดตัวหลัก และผลลัพธ์ที่ต้องการมาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยและพัฒนา เพื่อทำการเลือกสูตรและสารสกัดตัวอื่น ๆ ให้เข้ากันและตรงกับความต้องการ เมื่อได้สูตรแล้วจึงนำไปผลิต

อย่างไรก็ดี เจ้าของแบรนด์ทุกท่านคงเห็นกันแล้วว่าเพียงไม่กี่ขั้นตอน เราก็สามารถมีสูตรอาหารเสริมที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเจ้าของแบรนด์ต้องต่อยอดและคิดพัฒนาสูตรสินค้าอยู่เสมอด้วยนั่นเองค่ะ เพราะเป็นการสร้างการตลาดอีกแบบหนึ่งให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกกับสินค้าของแบรนด์เรามากขึ้นนั่นเอง

บทความที่น่าสนใจ

สร้างจุดขายให้แบรนด์ กับ สารประกอบสุดฮิต ที่ตลาดต้องการ เพิ่มยอดขายหลายร้อยล้าน !!

ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!

ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ

บริการของเรา มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ใส่ใจทุกกระบวนการ ผลิตด้วยมาตรฐาน 

ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือ สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง หรือ ผู้ที่อยากขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นขายครีมออนไลน์ ขายอาหารเสริมออนไลน์ สามารถปรึกษาข้อมูลได้ที่ บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิว รับผลิตคอลลาเจน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพทุกชนิด

มีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็กเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์ มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ

โรงงานผลิตอาหารเสริม มีกี่แบบ เลือกแบบไหนถึงเหมาะกับแบรนด์เรา?

โรงงานผลิตอาหารเสริม เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญสำหรับการสร้างธุรกิจหรือสร้างแบรนด์ เนื่องจากว่าสินค้าที่ถูกผลิตออกมาจะมีคุณภาพหรือไม่ ก็จะขึ้นอยู่กับโรงงานที่รับผลิตนี่เองค่ะ และในปัจจุบันก็มีโรงงานมากมายให้เจ้าของแบรนด์ได้เลือก อีกทั้งยังมีรูปแบบโรงงานที่มีรูปแบบการผลิตที่แตกต่างกันออกไป นั่นจึงทำให้แต่ละธุรกิจเหมาะกับโรงงานแต่ละแบบแตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ดี เราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเลือกโรงงานแบบไหนให้เหมาะกับแบรนด์ของเรา มีวิธีเลือกโรงงานแบบไหนให้ได้คุณภาพ บทความนี้มีคำตอบค่ะ

โรงงานผลิตอาหารเสริม มีกี่แบบ เลือกแบบไหนถึงเหมาะกับแบรนด์เรา?

โรงงานผลิตอาหารเสริม มีกี่แบบ แบบไหนบ้าง มีวิธีเลือกอย่างไรให้ได้โรงงานที่มีคุณภาพ?

เนื่องจากเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ทำให้ใครหลายคนต่างก็อยากเป็นเจ้าของกิจการ หรือเป็นเจ้าของแบรนด์ด้วยกันทั้งสิ้น และสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมในยุคนี้ คงมองข้ามกลุ่มอาหารเสริมบำรุงร่างกาย และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไปไม่ได้เลย เนื่องจากผู้คนเริ่มนิยมดูแลตัวเองมากขึ้น และในการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ควรที่จะพิจารณาหาแหล่งและโรงงานที่เชื่อถือได้ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์และสินค้าที่ได้ออกมามีคุณภาพดี และมีความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะใครที่กำลังสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารเสริม หากคุณกำลังมองหาโรงงานผลิตสักแห่ง เราจะมาแนะนำกันว่าข้อควรรู้อะไรบ้างที่ควรทราบ เพื่อให้การเลือกโรงงานผลิตเป็นไปตามที่ต้องการอย่างแท้จริง

โรงงานรับผลิตอาหารเสริมมีกี่แบบ อะไรบ้าง?

สำหรับโรงงานรับผลิตสินค้าในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบด้วยกันค่ะ ประกอบด้วย

โรงงาน OEM

OEM คือผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้แก่บริษัทที่จะไปขายในแบรนด์ของตัวเอง โดยโรงงานประเภทนี้จะรับจ้างผลิตสินค้าให้แก่แบรนด์ต่าง ๆ ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด แล้วติดชื่อแบรนด์ หรือ จะไม่ตีตราก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าโดยการใช้กระบวนการการผลิตของโรงงานตั้งแต่ฝ่ายผลิต ไปจนถึง เครื่องจักรต่าง ๆ สำหรับการผลิต ซึ่งทำให้ลูกค้าที่มาจ้างโรงงานผลิตนั้น ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยไม่ต้องถึงขั้นจัดตั้งโรงงานหรือซื้อเครื่องจักรผลิตสินค้าเอง ทำให้ผู้จ้างผลิตมีความเสี่ยงน้อย ใช้เงินทุนในการผลิตไม่มาก ซึ่งผลตอบแทนที่ได้ถือว่าคุ้มค่า โรงงานประเภทนี้นั้นมักจะเป็นโรงงานเปิดใหม่ ๆ หรือโรงงานที่ไม่เน้นการสร้างแบรนด์ของตนเองแต่เน้นการผลิตให้แก่แบรนด์อื่น ๆ ที่ต้องการผลิตในจำนวนน้อย หรือไม่มีโรงงานเป็นของตนเอง

จุดเด่นของโรงงานแบบ OEM

  • ช่วยลดต้นทุนการผลิตต่ำ
  • เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง
  • ง่ายต่อการเปลี่ยนลักษณะหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจ
  • มีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการผลิตคอยดูแล

โรงงาน ODM

ODM คือผู้รับจ้างที่ออกแบบและผลิตสินค้าให้แก่บริษัทเพื่อนำไปขายในแบรนด์ตัวเอง ซึ่งโรงงานประเภทนี้ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับประเภท OEM โดยผู้รับจ้างจะมีความสามารถทั้งการผลิตและออกแบบ โดยสามารถพัฒนารูปแบบสินค้าได้เองและนำแบบสินค้านั้นไปเสนอขายให้ลูกค้าที่มีแบรนด์แล้ว หรือเป็นการออกแบบร่วมกัน โดยที่ลูกค้ามีหน้าที่ในกระบวนการการขายและกระจายสินค้าสู่ตลาดเอง การออกแบบเหล่านี้มีทั้งที่เป็น Exclusive คือออกแบบให้เฉพาะราย โดยมีการคิดค่าออกแบบที่แพง เพราะถือว่าลูกค้าเพียงรายเดียวจะได้ประโยชน์ไปอย่างเต็มที่หรือ non- exclusive คือให้สิทธิแก่หลายรายได้ในราคาค่าออกแบบที่ถูกลง

จุดเด่นของโรงงานแบบ ODM

  • ไม่ต้องออกแบบเอง สามารถขายได้เลย เหมาะกับ ผู้เริ่มต้นทำแบรนด์
  • หากเลือกออกแบบที่เป็น Exclusive ก็จะได้แบรนด์สินค้าที่ไม่ซ้ำใคร
  • ช่วยลดต้นทุนการผลิตต่ำ
  • เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง
  • มีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการผลิต และการออกแบบคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

เทคนิคเลือกโรงงานรับผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ

สำหรับการเลือกโรงงานนั้น มีคุณสมบัติต่าง ๆ ของโรงงานที่เจ้าของแบรนด์ควรทราบก่อนตัดสินใจ ดังนี้ค่ะ

โรงงานต้องผ่านการจดทะเบียนบริษัทและผ่านการรับรองมาตรฐาน

โรงงานผลิตที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอย่างถูกต้องและผ่านการจดทะเบียนบริษัทมาแล้ว จะยิ่งทำให้คุณมั่นใจมากยิ่งขึ้นในการใช้บริการผลิตอาหารเสริมที่ได้คุณภาพดีที่สุด เพราะบริษัทที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.จะเป็นด่านแรกของผู้บริโภคที่ใช้พิจารณาในการเลือกซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่าง ๆ และช่วยในการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ รองรับความปลอดภัยของผู้บริโภค เป็นเครื่องหมายช่วยในการยืนยันว่าสินค้าชนิดนั้น ๆ ไม่มีอันตรายและสารปนเปื้อนที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย

ระบุที่ตั้งโรงงานและสำนักงานไว้อย่างชัดเจน

โรงงานและสำนักงานที่รับผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ ควรมีการระบุที่ตั้งของทั้งตัวโรงงานเอง และในส่วนของสำนักงานที่ใช้ติดต่ออย่างละเอียดชัดเจน เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุน ผู้บริโภคสินค้า และการระบุที่ตั้งชัดเจน จะทำให้ผู้ที่มีความสนใจในการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์เข้าไปปรึกษาเรื่องสินค้าและการลงทุนได้สะดวกมากขึ้น

มีจุดให้บริการและคำปรึกษา

เมื่อลูกค้า หรือผู้ที่สนใจลงทุนมีข้อสงสัย หรือความไม่เข้าใจเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ สัญญาการลงทุน การเลือกสรรวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต หรือแม้กระทั่งเรื่องของข่าวสารใหม่ ๆ ย่อมสามารถสอบถามและติดตามข้อสารต่าง ๆ ได้จากช่องทางที่ทางโรงงานผลิตจัดเตรียมไว้ เพื่อให้ผู้ที่สนใจลงทุนรับและเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

ให้บริการแบบครบวงจร

ข้อสำคัญของโรงงานที่ช่วยในการผลิตสินค้า ควรมีการให้บริการด้านการผลิตอย่างครบทั้งวงจร ทั้งในส่วนของการก่อนผลิต ที่ต้องมีการช่วยเหลือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการผลิต ว่าผู้ลงทุนสนใจสินค้าประเภทไหน สนใจตีตลาดในกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มไหน รวมไปถึงตัวสินค้าทั้งรูปแบบผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ต้นทุนการผลิต ส่วนขั้นตอนระหว่างการผลิตทางโรงงานก็ควรมีการติดต่อแสดงความคืบหน้าของตัวสินค้า และการขอรับรองสินค้าและผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด และที่สำคัญคือสร้างความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ส่วนสุดท้ายของบริการที่โรงงานผลิตสินค้าควรมี คือ หลังจากการผลิตแล้ว ทางโรงงานผลิตควรติดตามผล ในส่วนของความผิดพลาดเสียหายของสินค้า และปรับปรุงแก้ไขเมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น

ราคาที่ต่ำเกินไป

สิ่งที่ผู้ลงทุนส่วนมากมักพิจารณาเป็นอันดับแรกคือราคาในการผลิต แต่ในส่วนนี้ต้องสังเกตดี ๆ และพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ หากโรงงานผลิตไหนที่มีราคาการผลิตที่ต่ำมากเกินไป ควรตรวจสอบหลาย ๆ ด้านมากขึ้นอย่างเช่น เรื่องของการรับรองมาตรฐานโรงงาน การบริการของโรงงานผลิตทั้งการให้คำปรึกษา การดูแลในส่วนต่าง ๆ ว่าสามารถทำได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพหรือไม่ ดังนั้นในขั้นตอนการเลือกพิจารณาโรงงานผลิตควรใช้ราคาควบคู่ไปกับการทำงาน บวกกับมาตรฐานของโรงงานนั้น ๆ ด้วย เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และลดความเสี่ยงการเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค

พิจารณาเลือกจากผู้ที่เคยใช้บริการที่น่าเชื่อถือมาก่อน

การเลือกโรงงานผลิตตามผู้ที่เคยใช้บริการที่มีความน่าเชื่อถือมาก่อน ทั้งดารา-นักแสดงหรือผู้ที่มีชื่อเสียงก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ เพราะกลุ่มบุคคลเหล่านั้น ค่อนข้างมีหน้ามีตาในสังคมและเป็นบุคคลสาธารณะ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของโรงงานที่ผ่านการพิจารณาเลือกใช้เหล่านั้น มีความน่าเชื่อถือและมาพร้อมคุณภาพงานผลิตสูง

สรุป ต้องเลือกโรงงานผลิตอย่างไรให้เหมาะกับแบรนด์ของเรา?

ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ควรทราบถึงขั้นตอนการผลิต ของโรงงานนั้น ๆ ด้วยค่ะ เพื่อป้องกันปัญหาทั้งเรื่องส่วนผสมและฉลากต่าง ๆ เพราะถือเป็นปัจจัยที่ อย. ค่อนข้างเคร่งมาก ๆ

ทำไมต้องผลิตอาหารเสริม กับ Charmace

เราคือบริษัท รับผลิตอาหารเสริม และ สร้างแบรนด์อาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชสำอาง ครีม คุณภาพทุกชนิด อย่างครบวงจร รวมถึงควบคุมการผลิตโดยแพทย์ เภสัชกร และ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาด้านธุรกิจการตลาด เราสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และเราพร้อมที่จะบริการให้คำปรึกษา ในด้านต่าง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในธุรกิจการผลิตเครื่องสำอาง และ อาหารเสริมอย่างมืออาชีพค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

สร้างจุดขายให้แบรนด์ กับ สารประกอบสุดฮิต ที่ตลาดต้องการ เพิ่มยอดขายหลายร้อยล้าน !!

ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!

ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ

บริการของเรา มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ใส่ใจทุกกระบวนการการผลิตด้วยมาตรฐาน 

ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือการสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือสร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง หรือผู้ที่อยากขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นขายครีมออนไลน์ ขายอาหารเสริมออนไลน์ สามารถปรึกษาข้อมูลได้ที่ บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิว รับผลิตคอลลาเจน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพทุกชนิด

มีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็กเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์ มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ

เทคนิคตั้งชื่อแบรนด์ 5 วิธีตั้งชื่อแบรนด์และสินค้า ให้ผ่าน อย. แบบฉลุย

เทคนิคตั้งชื่อแบรนด์ เจ้าของแบรนด์หลาย ๆ ท่านคงสงสัยว่าทำไมแค่การตั้งชื่อแบรนด์จึงสำคัญนัก เพราะตั้งแบบไหนก็คงจะเหมือนกันเพียงแค่ไม่ตั้งซ้ำกับแบรนด์คู่แข่งก็พอแล้ว แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยค่ะ เพราะนอกจากชื่อจะถูกใจเจ้าของแบรนด์แล้วต้องถูกต้องตามหลักของ อย. ด้วยนั่นเอง เนื่องจากมีหลาย ๆ กรณีในอดีตที่ผู้บริโภคมักจะซื้อและหลงเชื่อสรรพคุณจากชื่อของแบรนด์ต่าง ๆ ที่กล่าวอ้างขึ้นมานั่นเอง เพราะฉะนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เจ้าของแบรนด์จึงต้องทราบถึงข้อกำหนดของการตั้งชื่อแบรนด์ตนเองจากบทความนี้ค่ะ

เทคนิคตั้งชื่อแบรนด์ 5 วิธีตั้งชื่อแบรนด์และสินค้า ให้ผ่าน อย. แบบฉลุย

เทคนิคตั้งชื่อแบรนด์ ตั้งยังไงให้ ผ่าน อย. ง่าย ๆ ถูกใจเจ้าของแบรนด์ ติดหูผู้บริโภค?

ในการตั้งชื่อแบรนด์ หรือชื่อผลิตภัณฑ์ใด ๆ นั้น เราจะเน้นแต่คำสวยหรู จดจำง่าย อย่างเดียวยังไม่พอค่ะแต่ต้องสามารถยื่นจดทะเบียนกับ สำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ด้วยจึงจะสามารถวางจำหน่ายได้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ในการที่จะตั้งชื่อแบรนด์ให้ถูกต้องตามหลัก อย. และเป็นที่ติดหูของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี วันนี้ Charmace จึงมีเทคนิคในการตั้งชื่อแบรนด์อย่างไรให้ถูกใจและถูกหลัก

ทำไมต้องตั้งชื่อแบรนด์ให้ถูกใจ อย. ?

เพราะในอดีตถึงปัจจุบัน มีการผลิตอาหารเสริมวางจำหน่ายกันมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่มักมีการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง ไม่ว่าจะเป็นมีฤทธิ์ในการบำรุงรักษา หรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางบวกต่อสุขภาพร่างกาย เสริมสุขภาพความงาม จนทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากหลงเชื่อ ซื้อมารับประทาน โดยไม่รู้ว่าอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของตนเอง

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้สำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความเข้มงวดกวดขัน ในการควบคุมให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่ออกมาวางจำหน่าย มีคุณภาพและมาตรฐาน ปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากขึ้น ด้วยการออกกฎหมาย พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ขึ้นมา ซึ่งการจะขึ้นทะเบียนอาหารเสริมได้นั้น จะต้องทำตามกฎหมายนี้อย่างเคร่งครัดนั่นเองค่ะ

5 เทคนิคสำหรับการตั้งชื่อแบรนด์ให้ผ่าน อย. แบบฉลุย

การรู้ว่า ตั้งชื่อแบรนด์ยังไงให้ผ่าน อย. จะช่วยให้คุณย่นระยะเวลาการยื่นเรื่องขอจดทะเบียนอาหารเสริมให้สั้นลง ช่วยให้สามารถได้ใบอนุญาตไว อันจะสามารถวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ทันที จึงเป็นเรื่องที่เจ้าของอาหารเสริมทุกคนควรรู้ โดยเทคนิคการตั้งชื่อแบรนด์ มีดังต่อไปนี้

1. ตั้งชื่อที่แปลโดย Dictionary แล้วไม่มีความหมาย

เมื่ออย. ไม่อนุญาต ให้ตั้งชื่อ ที่พอนำมาแปลแล้ว มีความหมาย ก็ควรพยายามประกอบคำขึ้นมาใหม่ ไม่ก็ตั้งชื่อที่แปลโดย Dictionary แล้วไม่มีความหมาย มาเป็นชื่อผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เช่น TATINA , Mokonia , Valensia ฯลฯ

2. มีความหมาย แต่ไม่สื่อถึงสรรพคุณ

หากชื่อนั้น ๆ สามารถแปลความหมายได้ แต่ไม่สื่อถึงสรรพคุณใด ๆ ของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้น ก็สามารถนำมาตั้งชื่อแบรนด์ได้ ตัวอย่างเข่น รอยัลเยลลี่ ถึงแม้ว่า รอยัล (Royal) จะแปลว่า เกี่ยวกับเจ้า ดีเลิศ เยี่ยม แต่เนื่องจากไม่สื่อถึงสรรพคุณใด ๆ ของผลิตภัณฑ์ ที่เป็นนมผึ้ง ซึ่งผลิตจากผึ้งงานเพื่อใช้เป็นอาหารของนางพญาและตัวอ่อนของผึ้ง มีสรรพคุณ ช่วยชะลอการแก่ก่อนวัย มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด ทำให้สามารถนำมาเป็นชื่อของอาหารเสริมได้

3. ชื่อบุคคล หรือ ชื่อบริษัท

สามารถนำเอาชื่อ ตัวย่อ ทั้งของบุคคลและบริษัท มาใช้ในการตั้งชื่อได้ โดยต้องไม่สื่อความหมายขัดต่อกฎเกณฑ์การตั้งชื่อเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น

  • Collagen B โดยอธิบายว่า “B” มาจากชื่อเล่นของลูกค้าผู้จัดจำหน่าย โดยต้องแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเซ็นรับรองกำกับว่า “ขอรับรองว่าชื่อ บี เป็นชื่อเล่นของข้าพเจ้านาย/นาง/นางสาว…………………………………………เอกสารนี้ใช้เพื่อยื่นขอ อย. ชื่อผลิตภัณฑ์ Collagen B เท่านั้น”
  • ZEN Collagen โดยอธิบายว่า “Z” ย่อมาจากชื่อบริษัท ZEN Biotech Co.,Ltd. โดยต้องแนบสำเนาหนังสือรับรองบริษัท พร้อมเซ็นรับรอง
  • KB โดยอธิบายว่า “KB” มาจากอักษรในภาษาอังกฤษ

4.ไม่สื่อถึงผู้บริโภค

ต้องไม่มีคำใดคำหนึ่ง ที่สื่อถึงผู้บริโภค เช่น Young Man Woman Old ซึ่งอาจจะทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่า เป็นอาหารเสริมสำหรับช่วงวัยตนเอง จนคาดหวังว่า จะมีผลลัพธ์ต่อสุขภาพ เมื่อได้รับประทานผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ทั้งนี้ หากเป็นชื่อที่สื่อถึง สรีระ  รูปร่าง  ผิวพรรณ  น้ำหนัก  การลด  การตัดทอน การเพิ่มขึ้น เพศ ก็ไม่ผ่านเช่นกัน

5.ไม่มีคำพ้องเสียงหรือคำที่มีเสียงคล้ายกัน

คำหรือชื่อของผลิตภัณฑ์ ต้องไม่พ้องเสียงกับคำภาษาอังกฤษที่มีความหมาย ที่อาจอวดอ้างถึงสรรพคุณ เช่น Slin มีเสียงคล้ายกับคำว่า Slim Klear พ้องเสียงกับคำว่า Clear โดยรวมถึงคำที่สะกดแล้วไม่มีความหมายใด ๆ แต่เมื่ออ่านแล้วพ้องเสียงหรือพ้องรูป ตรงกับคำอื่น ๆ ที่ อย. ไม่อนุญาตให้ใช้ เช่น W.H.I.T.E = อ้างอิงจากชื่อย่อบุคคล แต่เมื่อเขียนแล้วพ้องรูป กับคำว่า White ที่แปลว่า ขาว จึงไม่ผ่าน Refeat = ไม่มีความหมาย แต่พ้องเสียงแยกออกเป็น 2 คำ คือ Re = ย้อนกลับ , Feat = อ่านแล้วพ้องกับคำว่า Fit เมื่อรวมกันแล้ว เจ้าหน้าที่ อย. ตีความว่า “ย้อนกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง” จึงไม่ผ่านค่ะ

ท้ายที่สุด สรุปว่าสิ่งสำคัญของการตั้งชื่อแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ เจ้าของแบรนด์ต้องคำนึงถึงทั้งการตั้งชื่อ และการโฆษณา โดยต้องไม่กล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง หรือสื่อความหมายว่า จะช่วยบำบัด รักษาโรค ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในร่างกายได้ ตลอดจนมาตรฐานของสถานที่ผลิต หรือนำเข้าใบอนุญาตผลิตหรือนำเข้าและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ก็ต้องระบุรายละเอียดเหล่านี้ให้ครบถ้วน และยื่นเรื่องให้ อย. พิจารณาและอนุญาตก่อน ถึงจะสามารถวางจำหน่ายได้นั่นเองค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

รับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเองง่ายๆ ครบทุกวงจร

สร้างจุดขายให้แบรนด์ กับ สารประกอบสุดฮิต ที่ตลาดต้องการ เพิ่มยอดขายหลายร้อยล้าน !!

ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ

บริการของเรา มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ใส่ใจทุกกระบวนการการผลิตด้วยมาตรฐาน 

ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างเกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือการสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือสร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง หรือผู้ที่อยากขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นขายครีมออนไลน์ ขายอาหารเสริมออนไลน์ สามารถปรึกษาข้อมูลได้ที่ บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิว รับผลิตคอลลาเจน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพทุกชนิด

มีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็กเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ

รับผลิตเวย์โปรตีน สร้างแบรนด์เวย์โปรตีน รับทำครบ จบในที่เดียว

รับผลิตเวย์โปรตีน จากที่ทราบกันดีค่ะว่าในช่วง 2-3 ปีให้หลังมานี้เทรนด์รักสุขภาพกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้คุณภาพของการใช้ชีวิตและสุขภาพของหลาย ๆ คนลดลง ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เวย์โปรตีน และสินค้าเพื่อสุขภาพอื่น ๆ จึงได้รับความนิยมไปตาม ๆ กันนั่นเองค่ะ

 รับผลิตเวย์โปรตีน สร้างแบรนด์เวย์โปรตีน รับทำครบ จบในที่เดียว

รับผลิตเวย์โปรตีน มีขั้นตอนอย่างไร เจ้าของแบรนด์ต้องรู้อะไรบ้าง?

ปัจจุบันเทรนด์ในการดูแลสุขภาพกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากคนยุคใหม่เริ่มใส่ใจและเข้าถึงข้อมูลในการดูแลสุขภาพได้มากขึ้น อีกทั้งนอกจากสุขภาพดีแล้วก็ต้องการที่จะมีรูปร่างที่ดี จนทำให้เกิดกระแสความนิยมบริโภคโปรตีนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและรูปร่างที่ดี

มารู้จัก “เวย์โปรตีน” กันก่อน

ก่อนที่เจ้าของแบรนด์จะเริ่มดำเนินการสร้างแบรนด์เวย์ฯ ของตนเอง ต้องบอกก่อนค่ะว่า ยังมีอีกหลายสิ่งมาก ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ อีกทั้งยังเป็นข้อมูลที่ต้องใช้การตัดสินใจประกอบด้วยในการสร้างแบรนด์เวย์โปรตีน เพราะในขั้นตอนก่อนเริ่มสร้างแบรนด์นั้น เจ้าของแบรนด์ต้องทราบตั้งแต่ความแตกต่างของเวย์แต่ละประเภท คุณสมบัติของเวย์ที่ผู้บริโภคกำลังมองหา และกว่าจะมาเป็นเวย์ วางจำหน่ายได้บนท้องตลาดต้องผ่านอะไรมาก่อนบ้าง  ในบทความนี้เราจะมาคุยกันพอสังเขป เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้แก่เจ้าแบรนด์กันก่อนค่ะ

เวย์โปรตีน คือ…

เวย์โปรตีน คือ โปรตีนหลักชนิดหนึ่งซึ่งเป็นส่วนประกอบอยู่ในน้ำนม โดยปกติในน้ำนมต่าง ๆ นั้นประกอบด้วยโปรตีน 2 ชนิดหลัก คือ เวย์โปรตีน (Whey Protein) และเคซีนโปรตีน (Casein Protein) เวย์โปรตีนนั้นอุดมด้วยกรดอะมิโนจำเป็นสูง นอกจากน้ำนมแล้ว อาหารที่อาจมีเวย์โปรตีนเป็นส่วนประกอบยังได้แก่ ไอศกรีม ขนมปัง นมสูตรโปรตีนเวย์ที่ผ่านการย่อยบางส่วน และอาหารอื่น ๆ ซึ่งแต่ละอย่างอาจผ่านกระบวนการปรุงที่หลากหลาย ทำให้มีระดับโปรตีน น้ำตาล แร่ธาตุ และไขมันที่แตกต่างกันออกไป

ทำไมผู้บริโภคจึงต้องทาน “เวย์โปรตีน”

สำหรับเวย์โปรตีนนั้น จะมีคุณลักษณะและคุณสมบัติบางประการที่ผู้บริโภคกำลังมองหาค่ะ ประกอบด้วย

• มีส่วนช่วยสร้างกล้ามเนื้อ

หากใช้เวย์โปรตีนควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย จะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อได้ เพราะในเวย์โปรตีนมีกรดอะมิโนลิวซีน (Leucine) ที่ทำให้ร่างกายเพิ่มอัตราการสร้างกล้ามเนื้อ

• ช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการออกกำลังกาย

การรับประทานเวย์โปรตีนสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายและกล้ามเนื้อจากการปวดหรือเจ็บกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังกายหนักได้ ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดกล้ามเนื้อเมื่อยล้าจากการออกกำลังกายได้อีกด้วย

• ลดการสูญเสียของกล้ามเนื้อ

ช่วยป้องกันการสูญเสียของกล้ามเนื้อ ให้แข็งแรงอยู่เสมอ และช่วยกระตุ้นการสร้างมวลของกล้ามเนื้อขึ้นมาแทนที่เซลล์ไขมัน

• ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย

มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น เพราะในโปรตีนเวย์มีกรดอะมิโนสำคัญที่ชื่อว่า ซีสเตอีน(Cysteine) ร่างกายใช้ซีสเตอีนเป็นองค์ประกอบในการสังเคราะห์กลูตาไธโอนซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ประเภทของ “เวย์โปรตีน” ที่ควรรู้จัก มีกี่ประเภท?

ชนิดของเวย์โปรตีนนั้นแบ่งตามระดับของความบริสุทธิ์ของโปรตีน โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้

1.Whey Protein Concentrate (WPC)

คือเวย์โปรตีนที่มีระดับไขมันและคอเลสเตอรอลค่อนข้างต่ำ และเวย์โปรตีนชนิดนี้ มีน้ำตาลแลคโตสมากที่สุดหากเทียบกับประเภทอื่น ๆ ความบริสุทธิ์ของ “โปรตีน” อยู่ที่ 60–75% ซึ่งน้อยที่สุดในบรรดาเวย์โปรตีน ทำให้มีราคาที่ถูกกว่าแบบอื่น

2.Whey Protein Isolate (WPI)

คือเวย์โปรตีนที่สกัดเอาน้ำตาลแลคโตสและไขมันออกไป ทำให้มีโปรตีนสูงมากถึง 90 % ขึ้นไป จัดเป็นเวย์โปรตีนที่มีคุณภาพ และมีความบริสุทธิ์สูง มีราคาสูงกว่าแบบ Concentrate

3.Whey Protein Hydrolyze (WPH)

คือการนำเวย์โปรตีนแบบใดแบบหนึ่งข้างต้นมาแปลงสภาพโดยใช้กระบวนการไฮโดรไลซ์ คือใช้น้ำเป็นตัวสกัดโปรตีนเพื่อให้ได้โมเลกุลที่เล็กลง ทำให้ดูดซึมเร็ว มีความบริสุทธิ์สูงมากถึง 100% เหมาะกับผู้ที่แพ้นม และ แลคโตส

4.Whey Protein Blend (WPB)

เวย์ชนิดนี้คือเวย์ผสม มีส่วนประกอบของโปรตีนแบบผงเช่น WPC, WPI, WPH, โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง, โปรตีนสกัดจากไข่ขาว และอื่น ๆ มาผสมกันตามแต่ละสูตรของทางแบรนด์

กระบวนการทำเวย์โปรตีน

กระบวนการผลิตเวย์โปรตีน สามารถแบ่งออกได้ 10 ขั้นตอนหลัก ๆ ค่ะ ดังนี้

ขั้นที่ 1  : เก็บน้ำนมจากวัว
ขั้นที่ 2 : นำน้ำนมวัวดิบ ไปแช่แข็งที่อุณหภูมิประมาณ 4 องศา และขนส่งไปยังโรงงานการผลิต โดยต้องรักษาอุณหภูมิความเย็น ขณะขนส่งด้วย
ขั้นที่ 3 : นำนมสดจากวัวมาผ่านการทำพาสเจอไรซ์ ( Pasteurization ) เพื่อฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียที่อยู่ในนมวัว โดยการใช้ความร้อนชั่วครู่ จนถึงอุณหภูมิ 72-73 องศาเซลเซียส จากนั้นจึงทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็ว ในขั้นตอนนี้ สารอาหารที่สำคัญในนมวัวจะยังคงอยู่ ส่วนเชื้อโรคจะถูกทำลาย
ขั้นที่ 4 : หลังจากการพาสเจอไรซ์ นมที่ได้จะมีการแยกส่วนเป็น เคซีน (Casein) 80% และเวย์เหลว ( Liquid Whey) 20% โดย เคซีน จะถูกนำไปใช้ในการผลิตเนยแข็ง หรือชีส ส่วนเวย์เหลว นำไปใช้ในการผลิตเวย์โปรตีนต่อไป
ขั้นที่ 5 : เวย์เหลว จะถูกส่งไปกรองเป็นเวย์โปรตีนเหลวที่มีคุณภาพสูง และนำมาผ่านการทำให้บริสุทธิ์ขึ้น โดยการแยกเอาแลคโตส ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และน้ำออกไป แล้วเข้าสู่กระบวนการทำให้แห้ง ก็จะทำให้ได้ เวย์โปรตีนชนิด คอนเซนเทรท ( Whey Protein Concentrate : WPC ) ที่มีความเข้มข้นของ โปรตีนสูงถึง 70-80 % ต่อปริมาณเวย์โปรตีน และมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ทั้ง 8 ชนิด
ขั้นที่ 6 : เวย์โปรตีนชนิด คอนเซนเทรท จะถูกนำมาผ่านกระบวนการผลิตเพิ่มเติม เพื่อแยกแลคโตส และไขมันจนหมด ทำให้ได้ เวย์โปรตีนไอโซเลต ( Whey Protein Isolate :  WPI ) ที่มีความเข้มข้นของโปรตีนมากขึ้น สูงถึง 90-98% ต่อปริมาณเวย์โปรตีน เลยทีเดียว และสามารถนำ เวย์โปรตีนไอโซเลต มาผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์อีกครั้ง ทำให้ได้โมเลกุลของเวย์โปรตีน ที่มีขนาดเล็กมาก หรือเรียกว่า เปปไทด์ มีโปรตีนบริสุทธิ์มากกว่า 90% พอ ๆ กับเวย์โปรตีน ไอโซเลต  แต่จะดูดซึมได้ง่ายและรวดเร็วกว่า
ขั้นที่ 7 : เวย์โปรตีนที่ผ่านการแยกมาแล้วนั้น ยังมีสถานะเป็นของเหลวอยู่ในขั้นนี้ เวย์โปรตีนเหลวจะถูกทำให้แห้งแบบพ่นฝอย ( Spray Drying)   ทำให้น้ำถูกนำออกอย่างรวดเร็ว กระบวนการทำให้แห้งแบบพ่นฝอย จะทำให้มั่นใจได้ว่าหางนมจะไม่สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการและโปรตีนไม่สูญหายในกระบวนการผลิต
ขั้นที่ 8 : ทดสอบคุณภาพของเวย์โปรตีน
ขั้นที่ 9 : ผงเวย์โปรตีน จะถูกนำไปเพิ่มรสชาติ และมีการบรรจุภัณฑ์ในโรงงานสุดท้าย
ขั้นที่ 10 : เวย์โปรตีนที่ถูกบรรจุภัณฑ์ ปิดผนึกเรียบร้อย จะมีตัวอย่างถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้เครื่องอินฟราเรด วัดปริมาณโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต กรดอะมิโน และส่วนประกอบอื่น ๆ หากได้มาตรฐาน ก็สามารถส่งจัดจำหน่ายได้เลย

วิธีเลือกโรงงานรับผลิตเวย์โปรตีน

สิ่งที่ต้องดูประกอบการเลือกจ้างโรงงานรับผลิตเวย์โปรตีน คือ

บริการที่โรงงานรับผลิตเวย์โปรตีน

ดูว่าโรงงานนั้น ๆ ให้บริการอะไรบ้าง เช่น บริการให้คำปรึกษา ทำกราฟิก บริการขึ้นทะเบียนสินค้า หรือบริการโปรโมทและโฆษณา เพราะหากโรงงานมีบริการอยู่แล้วจะช่วยให้เจ้าของแบรนด์ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้

มาตรฐานโรงงาน

มาตรฐานของโรงงานที่รับผลิตเวย์โปรตีน เป็นอีก 1 จุดขาย ที่สามารถนำไปโปรโมททำการตลาดสินค้าได้ และก็คงไม่มีผู้บริโภคคนไหนอยากจะซื้อเวย์โปรตีนที่ผลิตจากโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐานหรอกนะคะ

นวัตกรรม

ทั้งด้านเครื่องจักรผลิต และวัตถุดิบ นวัตกรรมที่ล้ำกับสารสกัดที่แปลกและดี ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะนำมาสร้างแบรนด์เวย์โปรตีนได้

ทีมวิจัย

แต่ละโรงงานรับผลิตเวย์จะมีสูตรเวย์โปรตีนประจำโรงงานอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเจ้าของแบรนด์มีความต้องการที่แตกต่างไปจากสูตรเวย์ที่มีอยู่ จะต้องอาศัยทีมวิจัยของโรงงานในการคิดค้นสูตรขึ้นมาใหม่ ฉะนั้น คุณวุฒิและความเชี่ยวชาญของทีมวิจัยประจำโรงงานก็มีความสำคัญ

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนสร้างแบรนด์ จนถึงกระบวนการผลิต เจ้าของแบรนด์ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่มีประสบการณ์คอยแนะนำเพื่อให้ทุก ๆ ขั้นตอนผ่านไปด้วยดี ทั้งนี้ เมื่อสินค้าถูกวางออกจำหน่ายแล้ว เจ้าของแบรนด์ควรมีแผนต่อยอดการขายสินค้าต่อไป เพื่อให้กลายเป็นสินค้าที่ผู้บริโภครู้จักและติดตลาดอย่างต่อเนื่องค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

รับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเองง่ายๆ ครบทุกวงจร

สร้างจุดขายให้แบรนด์ กับ สารประกอบสุดฮิต ที่ตลาดต้องการ เพิ่มยอดขายหลายร้อยล้าน !!

ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!

บริการของเรา มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ใส่ใจทุกกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐาน 

ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือ สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง หรือ ผู้ที่อยากขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นขายครีมออนไลน์ ขายอาหารเสริมออนไลน์ สามารถปรึกษาข้อมูลได้ที่ บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิว รับผลิตคอลลาเจน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพทุกชนิด

มีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็กเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ

สร้างแบรนด์ อาหารเสริมผู้หญิง ผลิตภัณฑ์สำหรับสตรี เริ่มตรงไหนดี?

อาหารเสริมผู้หญิง เมื่อพูดถึงการดูแลตนเอง แน่นอนว่าเพศที่ส่วนมากให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ มักจะเป็นคุณผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ เนื่องจากพวกเธอจะมีความละเอียดอ่อนและทำความเข้าใจกับภาวะร่างกายของตนเองเสมอ จึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้หญิงมากมาย โดยผลิตภัณฑ์บางตัวก็ช่วยในเรื่องผิวพรรณ บางตัวก็ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย และบางตัวก็ช่วยในเรื่องของการรักษารูปร่าง ดังนั้น เราจะมาทำความเข้าใจกันค่ะ ว่าการจะสร้างแบรนด์อาหารเสริมสำหรับผู้หญิงนั้นต้องเริ่มจากตรงไหน และการที่เราจะสามารถสู้คู่แข่งบนตลาดอาหารเสริมนั้นต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ

สร้างแบรนด์ อาหารเสริมผู้หญิง ผลิตภัณฑ์สำหรับสตรี เริ่มตรงไหนดี?

อาหารเสริมผู้หญิง สร้างแบรนด์อย่างไร เลือกโรงงานรับผลิตสินค้าอย่างไรดี?

ในปัจจุบันแหล่งรับผลิตอาหารเสริมผู้หญิงอาจมีจำนวนมากมาย ด้วยเพราะกระแสการดูแลสุขภาพได้กลายมาเป็นวิถีชีวิตของคนยุคปัจจุบัน ฉะนั้นการกินอาหารดี และออกกำลังกายอาจไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่ดูแลสุขภาพร่างกายในยุคเร่งด่วน จึงต้องอาศัยอาหารเสริมเป็นตัวช่วยให้ร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์ม โดยเฉพาะผู้หญิงที่มักจะต้องการให้ร่างกายกระฉับกระเฉง และมีชีวิตในบ้านและนอกบ้านที่มีความสุข จึงทำให้มีแหล่งรับผลิตอาหารเสริมผู้หญิงเพิ่มจำนวนมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการที่มีเพิ่มมากขึ้นนั่นเองค่ะ

แนวโน้มธุรกิจอาหารเสริมสำหรับผู้หญิง ทำอย่างไรถึงจะอยู่รอด?

จากปัจจัยแวดล้อมทางด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือนอกประเทศ ที่ค่อนข้างผันผวนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการ SME ในหลาย ๆ ธุรกิจ ที่จะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นนั้น ในทางกลับกันแนวโน้มหรือเทรนด์ของธุรกิจที่เกาะไปกับกระแสเพื่อสุขภาพ กลับไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนักและยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพและความงามกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ผู้บริโภคสามารถรับรู้และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ และความงามได้อย่างรวดเร็ว ผ่านช่องทางที่หลากหลายโดยเฉพาะ Social Media ต่าง ๆ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจจะต้องปรับตัวและรับมือกับการแข่งขันกันรุนแรงขึ้นเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด ดังนั้น  ผู้ประกอบการ SME จึงไม่สามารถนำเสนอสินค้าแบบฉาบฉวยหรือเพียงเพราะเกาะกระแสรักสุขภาพได้อีกต่อไป แต่ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวให้ธุรกิจหรือสินค้าสามารถตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ได้มากที่สุดด้วย

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ให้มีรากฐานแข็งแรง ต้องเริ่มจากตรงไหน?

หากจะพูดถึงการสร้างแบรนด์นั้น ก็เป็นที่ทราบกันดีค่ะว่า ในการเริ่มต้น มักมีความยากเสมอ รวมไปถึงการลองผิด ลองถูก เพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุดออกมา จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม เจ้าของแบรนด์ ต้องเลือกที่ปรึกษาหรือทีมที่ช่วยในการสร้างแบรนด์ให้ดี เพราะแต่ละขั้นตอนในการสร้างแบรนด์และกว่าจะได้สินค้าออกมานั้นมีความยากมาก ๆ นั่นเองค่ะ อีกทั้ง อาจพบเจอปัญหาต่าง ๆ ได้อีกด้วย ดังนั้น เจ้าของแบรนด์สามารถยึดหลักการสร้างแบรนด์ 6 ขั้นตอนนี้ไว้ เพื่อเป็นกระบวนการเบื้องต้นได้ ดังนี้ค่ะ

1.วางแผนแบรนด์แบบพอสังเขป

เมื่อเราอยากจะทำอาหารเสริมเราก็ต้องวางแผนอย่างคร่าว ๆ ก่อน ว่าอาหารเสริมของเราจะเป็นไปในทิศทางใด เราจะทำอาหารเสริมในรูปแบบไหน ลักษณะไหน จะลงทุนเท่าไหร่ จะขายใคร ขายไม่ได้จะทำอย่างไร เราจะทำการตลาดแบบไหน จะโฆษณาช่องทางใด และอื่น ๆ อีกมากมายที่มีมาให้คิดตลอดทางการดำเนินเพื่อจะทำอาหารเสริมสักตัวหนึ่ง

2. คิดค้นสูตรอาหารเสริม

ถึงแม้เราจะไม่มีความรู้เรื่องอาหารเสริม แต่เราก็สามารถหาที่ปรึกษาในเรื่องนี้ได้ ปัจจุบันมีโรงงานที่ให้บริการครอบคลุมทั้งในเรื่องของการผลิต และการออกแบบ คิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ให้เรา หรือแม้แต่สูตรสำเร็จรูปที่เราสามารถเลือกใช้ได้ เพียงแค่ปรับบรรจุภัณฑ์ ติดโลโก้ให้เป็นแบรนด์เรา

3.วางแผนการตลาดสำหรับสินค้าของแบรนด์

การวางแผนการตลาดนั้นสำคัญมาก หากเราอยากขายสินค้าของเราได้ การวางแผนการตลาดนอกจากการทำการโฆษณาต่าง ๆ แล้ว ยังรวมไปถึงการวางแผนหากสินค้าขายไม่ได้ตามเป้าหมายจะทำเช่นไร หรือหากขายได้ดีเกินคาดเราจะผลิตออกมาอีกเท่าไหร่ หรือจะปรับแผนการขายให้เป็นไปในทิศทางไหน ควรออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาไหม เป็นต้น

4.กระบวนการการผลิต

ในขั้นตอนการผลิตจะทำให้เราได้เห็นตัวผลิตภัณฑ์ของเราที่เป็นรูปเป็นร่าง เราจะรู้ได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะมีลักษณะเป็นเช่นไร เราควรจะควบคุมการทำงานให้เป็นไปในทิศทางไหน ในโรงงานที่รับผลิตอาหารเสริมหากเราใช้บริการโรงงานเหล่านั้นเราควรที่จะเข้าไปดูขั้นตอนการผลิตได้ด้วยตนเอง เพื่อที่เราจะสามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าเราได้ เราอาจจะไม่รู้ว่าจะต้องผสมอะไรอย่างไร ใช้เครื่องมือเครื่องจักรยังไง แต่เราสามารถเห็นได้ถึงความสะอาด การผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐานจากขั้นตอนนี้เอง

5. ยื่นจดทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อย.)

เมื่อได้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่เสร็จสมบูรณ์ ก็ถึงเวลายื่นจดทะเบียนกับ อย. เพื่อให้สามารถจัดจำหน่ายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยการเตรียมเอกสารตามที่อย. กำหนด ไม่ว่าจะเป็นสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนร้าน แผนที่ตั้งร้านบริษัท ฯลฯ พร้อมผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง 2 ชุด ที่มีฉลากเรียบร้อย ยื่นให้ทาง อย. ตรวจสอบ หากอาหารเสริมของคุณผ่านเกณฑ์ ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด เพียงเท่านี้เจ้าของแบรนด์ก็จะสามารถวางขายอาหารเสริมได้อย่างสบายหายห่วงค่ะ

6. ช่วงโปรโมทและบริการหลังการขาย

สำหรับช่วงโปรโมทสินค้า เจ้าของแบรนด์ต้องเน้นทำการตลาดบนโลกออนไลน์ เนื่องจากเป็นสื่อที่สามารถสร้าง Content ในการโปรโมทสินค้าได้หลากหลาย และผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นอีกด้วย รวมถึงการบริการหลังการขายนั้น เจ้าของแบรนด์ก็ควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะจริงอยู่ค่ะ ที่การบริการในช่วงก่อนขายสินค้าและขณะที่ขายสินค้าอยู่เป็นช่วงที่สำคัญ แต่สิ่งที่จะมัดใจลูกค้า และสร้าง Customer Royalty ได้ในระยะยาวนั้น คือบริการหลังการขายนั่นเอง เพราะฉะนั้น ต้องไม่ลืมที่จะมี Policy ของการบริการหลังการขายที่ดีด้วยนะคะ

วิธีเลือกโรงงานสำหรับการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ ต้องเลือกอย่างไร?

ถึงแม้ว่าการสร้างแบรนด์อาหารเสริมผู้หญิงจะทำได้ไม่ยาก แต่การผลิตอาหารเสริมผู้หญิงออกมาให้มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัยนั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการแนะนำการผลิต การเลือกโรงงานรับผลิตอาหารเสริมผู้หญิงจึงไม่ใช่แค่การเลือกโรงงานทั่ว ๆ ไป แต่ควรเลือกโรงงานที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ด้วยค่ะ ซึ่งเจ้าของแบรนด์สามารถพิจารณาได้จากข้อต่าง ๆ ดังนี้

มีประสบการณ์การทำงาน

ควรเลือกโรงงานรับผลิตอาหารเสริมผู้หญิงที่มีประสบการณ์การทำงานและมีผลงานการผลิต เพราะเป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการผลิตได้ เนื่องจากฝ่ายผู้ผลิตมีผลงานสู่ท้องตลาดที่สามารถตรวจสอบได้ออกมาให้เห็นแล้ว

มีการรับรองและควบคุมคุณภาพการผลิต

โรงงานรับผลิตอาหารเสริมที่เลือกควรเป็นโรงงานที่มีการรับรองและมีการควบคุมคุณภาพในระดับมาตรฐานจากหน่วยงานของรัฐหรือสถาบันวิจัยต่าง ๆ เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกได้ว่าโรงงานนี้มีคุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐาน

ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย

การผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้สินค้าดูน่าสนใจและช่วยลดเวลาการผลิตสินค้าได้ เช่น เครื่องมือผลิตที่ทันสมัย สามารถผลิตอาหารเสริมได้จำนวนมากขึ้น ทำให้อาหารเสริมของคุณผลิตออกมาได้จำนวนมากโดยไม่ต้องใช้เวลานาน

มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและมีการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ผู้เชี่ยวชาญเปรียบเหมือนผู้นำทางการผลิตที่ช่วยแนะนำ ให้คำปรึกษา และมอบแต่สิ่งที่ดี ๆ ให้ การที่ผู้นำมีการคิดค้นและหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอจึงเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยให้สินค้าของคุณออกมาดีตามไปด้วย

ท้ายที่สุด โรงงานรับผลิตอาหารเสริมที่ดีเป็นเหมือนผู้ที่หยิบยื่นสินค้าที่ดีให้แก่ลูกค้า หากสินค้านั้นดี ยื่นออกไปให้ใครก็ย่อมดี แต่หากสินค้านั้นไม่ดียื่นออกไปให้ใครก็ย่อมไม่ดี การเลือกโรงงานผลิตอาหารเสริมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ผลิตอาหารเสริมควรให้ความใส่ใจ เนื่องจากสินค้าเป็นอาหารเสริมที่ต้องใช้บำรุงร่างกาย จึงจำเป็นที่จะต้องมีคุณภาพและความปลอดภัยต่อผู้บริโภคไว้ก่อนนะคะ

บทความที่น่าสนใจ

สร้างจุดขายให้แบรนด์ กับ สารประกอบสุดฮิต ที่ตลาดต้องการ เพิ่มยอดขายหลายร้อยล้าน !!

รับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเองง่ายๆ ครบทุกวงจร

ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ

บริการของเรา มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ใส่ใจทุกกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐาน 

ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือ สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง หรือ ผู้ที่อยากขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นขายครีมออนไลน์ ขายอาหารเสริมออนไลน์ สามารถปรึกษาข้อมูลได้ที่ บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิว รับผลิตคอลลาเจน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพทุกชนิด

มีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็กเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ

Charmace สร้างแบรนด์อาหารเสริม ที่ปรึกษา พร้อมรับผลิต จบในที่เดียว

สร้างแบรนด์อาหารเสริม เป็นหนึ่งในธุรกิจยอดนิยมไปเสียแล้วค่ะกับการทำแบรนด์อาหารเสริม เนื่องจากเป็นยุคที่เกิดการแพร่กระจายของไวรัสและเชื้อโรคต่าง ๆ จึงทำให้เทรนด์การดูแลสุขภาพกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง หลาย ๆ คนเข้ายิมเพื่อออกกำลังกายมากขึ้น หลาย ๆ คนเลือกรับประทานอาหารมากขึ้น รวมถึงอาหารเสริมด้วยนั่นเองค่ะ อย่างไรก็ดี อาหารเสริมนั้นมีหลากหลายแบบทีเดียว รวมถึงสามารถตีตลาดลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิง ผู้ชาย วัยทำงาน หรือวัยสูงอายุ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าของแบรนด์หลาย ๆ คนอยากสร้างแบรนด์อาหารเสริมขึ้นมา แต่ติดปัญหาที่ว่า ยังไม่เคยมีประสบการณ์การทำแบรนด์มาก่อน ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันค่ะว่า จะสร้างแบรนด์ “อาหารเสริม” สักแบรนด์หนึ่ง ต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

สร้างแบรนด์อาหารเสริม เริ่มอย่างไร ยากไหม ต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง?

สร้างแบรนด์อาหารเสริม ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังเป็นนิยมอย่างมาก เพราะจากวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจสุขภาพ และรักสวยรักงามกันมากยิ่งขึ้น กระแสการดูแลสุขภาพและรูปลักษณ์นี่เองที่ทำให้ตลาดอาหารเสริมในบ้านเราเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ในช่วงที่ตลาดกำลังคึกคักนี้เอง เราลองมาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีกลวิธีใดบ้างที่จะทำให้เราเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมที่ประสบความสำเร็จได้บ้าง แต่ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับอาหารเสริมและตลาดอาหารเสริมกันก่อนนะคะ

อาหารเสริม คือ…

คือ สารอาหารที่ใช้รับประทานเพิ่มเติมจากมื้ออาหารหลัก อาจใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ หรือเพื่อบำรุงสุขภาพตามความเชื่อของบางบุคคล ส่วนสารอาหารที่มักถูกนำมาทำเป็นอาหารเสริม ได้แก่ วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน พืช ผัก สมุนไพรต่าง ๆ เป็นต้น

ทำไมธุรกิจอาหารเสริมจึงเป็นที่นิยม?

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สร้างวิถีชีวิตใหม่ทางด้านสุขภาพให้แก่คนไทย หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่สม่ำเสมอกันมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ผลักดันให้มูลค่าทางการตลาดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมปีนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด

จากผลการสำรวจของสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่าคนไทย 45.39% ได้หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายทั้งกลางแจ้งหรือในร่ม เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ตลอดทั้งการรับประทานอาหารเสริมและวิตามิน รวมทั้งเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแขนงต่าง ๆ มากขึ้น

แนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลจากบริษัทไอพีจี มีเดียแบรนด์ ประเทศไทย จำกัด ที่คาดการณ์ทิศทางใหม่จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงว่าในทุกวันนี้ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่กำลังเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ทำให้ต้องดูแลสุขภาพกันเป็นพิเศษมากกว่าแต่ก่อนนั่นเองค่ะ

อยากเป็นของแบรนด์อาหารเสริม ยากไหม ต้องเจอปัญหาอะไร มีขั้นตอนสร้างธุรกิจอย่างไรบ้าง?

หากจะพูดถึงการสร้างแบรนด์นั้น ก็เป็นที่ทราบกันดีค่ะว่า ในการเริ่มต้น มักมีความยากเสมอ รวมไปถึงการลองผิด ลองถูก เพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุดออกมา จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม เจ้าของแบรนด์ ต้องเลือกที่ปรึกษาหรือทีมที่ช่วยในการสร้างแบรนด์ให้ดี เพราะแต่ละขั้นตอนในการสร้างแบรนด์และกว่าจะได้สินค้าออกมานั้นมีความยากมาก ๆ นั่นเองค่ะ อีกทั้ง อาจพบเจอปัญหาต่าง ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนกระทั่งขั้นตอนปล่อยออกจำหน่าย ดังนั้น เจ้าของแบรนด์จึงควรมีทีมปรึกษาในการสร้างแบรนด์ที่ชำนาญและมีประสบการณ์เพื่อช่วยให้แบรนด์มีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น

ปัญหาที่เจ้าของแบรนด์อาหารเสริม สามารถพบเจอได้ มีดังนี้…

จากที่ได้กล่าวไปค่ะว่า ขั้นตอนแรกเริ่มของการสร้างแบรนด์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอาจพบเจอกับปัญหาที่เจ้าของแบรนด์หลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่รู้ กำหนดทิศทางไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร โดยปัญหาที่เจ้าของแบรนด์อาจพบเจอ สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเด็นหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ

1.ไม่มีความรู้ในการสร้างแบรนด์

ตลาดธุรกิจอาหารเสริมมีการแข่งขันที่สูงมาก หากนักธุรกิจมือใหม่ขาดความรู้ในการสร้างแบรนด์ รวมถึงขาดความรู้ในการวางแผนโมเดลธุรกิจ ขอบอกเลยว่า โอกาสที่จะเจ๊งนั้นมีสูงมาก ๆ ดังนั้นเราแนะนำให้เจ้าของแบรนด์ปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญของโรงงานผลิตอาหารเสริมจะดีที่สุด เพราะผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้มีประสบการณ์ในการสร้างแบรนด์รอบด้าน ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกคู่แข่งเอาเปรียบเลยค่ะ

2.พนักงานขาดความรู้ความเข้าใจในแบรนด์อาหารเสริม

ธุรกิจที่พึ่งก่อตั้งมักจะต้องวางรากฐานให้มั่นคง เพื่อที่บริษัทจะได้สามารถก้าวหน้าได้ไกล ยิ่งเป็นธุรกิจอาหารเสริมที่มีการแข่งขันสูง แบรนด์ใหม่ ๆ จึงต้องการพนักงานมากประสบการณ์มาช่วยสร้างแบรนด์ในระยะยาว แต่หากความรู้ความชำนาญของพนักงานยังไม่พอ ก็สามารถปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญของโรงงานผลิตอาหารเสริมได้เช่นกัน โรงงานเหล่านี้จะมีทีมงานมากประสบการณ์คอยสอนให้ความรู้ตั้งแต่ขั้นแรกเริ่มเลยค่ะ

3.ไม่มี Connection ในวงการธุรกิจ

“คอนเนกชั่น” ถือเป็นเรื่องสำคัญมากในการทำธุรกิจ เพราะยิ่งนักธุรกิจคนไหนมีคอนเนกชั่นมาก ๆ ก็เปรียบเสมือนมีคนพร้อมให้ความช่วยเหลือมากเท่านั้น แต่สำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้นทำธุรกิจอาหารเสริม หนึ่งในการเริ่มต้นสร้างคอนเนกชั่นของตัวเอง คือการเข้าหาโรงงานผลิตอาหารเสริมดัง ๆ ที่มีเครือข่ายกว้างขวาง โรงงานเหล่านี้พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและแนะนำเครือข่ายสังคมธุรกิจให้เจ้าของแบรนด์อยู่เสมอ

4. ขาดความน่าเชื่อถือเพราะเป็นแบรนด์ใหม่

แบรนด์อาหารเสริมที่เจ้าของธุรกิจไม่มีเครือข่ายสังคมที่มากพอ จะยิ่งขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้า ซึ่งในจุดนี้ทางโรงงานผลิตอาหารเสริมสามารถช่วยเหลือเจ้าของแบรนด์ได้ เพราะโรงงานผลิตอาหารเสริมดี ๆ พร้อมให้ความช่วยเหลือในการสร้างแบรนด์ รวมถึงวางแผนการตลาดเพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและมีความน่าเชื่อถือในระยะยาว และที่สำคัญหากอาหารเสริมของคุณผลิตจากโรงงานที่ได้คุณภาพ มีมาตรฐานรับรอง สามารถนำจุดเด่นของสินค้ามาสร้างความเชื่อถือได้อีกด้วย

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์อาหารเสริม เริ่มจาก…

แน่นอนว่า อาหารเสริมแต่ละแบรนด์ แต่ละตัว มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งอาจจะมีขั้นตอนไม่เหมือนกัน แต่สำหรับวิธีเบื้องต้นของการสร้างแบรนด์อาหารเสริมนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 10 ขั้นตอน ดังนี้

1.วางแผนแบรนด์แบบพอสังเขป

เมื่อเราอยากจะทำอาหารเสริมเราก็ต้องวางแผนอย่างคร่าว ๆ ก่อน ว่าอาหารเสริมของเราจะเป็นไปในทิศทางใด เราจะทำอาหารเสริมในรูปแบบไหน ลักษณะไหน จะลงทุนเท่าไหร่ จะขายใคร ขายไม่ได้จะทำอย่างไร เราจะทำการตลาดแบบไหน จะโฆษณาช่องทางใด และอื่น ๆ อีกมากมายที่มีมาให้คิดตลอดทางการดำเนินเพื่อจะทำอาหารเสริมสักตัวหนึ่ง

2. ตั้งกลุ่มเป้าหมาย

การตั้งกลุ่มลูกค้านั้นสำคัญมาก เมื่อเรารู้ว่าเราอยากจะขายใคร อยากจะให้ใครมาซื้อสินค้าเรา เราก็สามารถผลิตสินค้าของเราให้กลุ่มคนเหล่านั้นหันมาสนใจและเลือกซื้อได้ นอกจากนั้นกลุ่มลูกค้ายังจะเป็นตัวกำหนดในการคิดค้นสูตรอาหารเสริม การออกแบบผลิตภัณฑ์ การกำหนดราคา เรียกได้เป็นหัวข้อหลักในการทำอาหารเสริมขายเลยทีเดียว

3. คิดค้นสูตรอาหารเสริม

ถึงแม้เราจะไม่มีความรู้เรื่องอาหารเสริม แต่เราก็สามารถหาที่ปรึกษาในเรื่องนี้ได้ ปัจจุบันมีโรงงานที่ให้บริการครอบคลุมทั้งในเรื่องของการผลิต และการออกแบบ คิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ให้เรา หรือแม้แต่สูตรสำเร็จรูปที่เราสามารถเลือกใช้ได้ เพียงแค่ปรับบรรจุภัณฑ์ ติดโลโก้ให้เป็นแบรนด์เรา

4.วางแผนการตลาดสำหรับสินค้าของแบรนด์

การวางแผนการตลาดนั้นสำคัญมาก หารเราอยากขายสินค้าของเราได้ การวางแผนการตลาดนอกจากการทำการโฆษณาต่าง ๆ แล้ว ยังรวมไปถึงการวางแผนหากสินค้าขายไม่ได้ตามเป้าหมายจะทำเช่นไร หรือหากขายได้ดีเกินคาดเราจะผลิตออกมาอีกเท่าไหร่ หรือจะปรับแผนการขายให้เป็นไปในทิศทางไหน ควรออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาไหม เป็นต้น

5.ออกแบบ Packaging (บรรจุภัณฑ์)

สำหรับบรรจุภัณฑ์ เจ้าของแบรนด์หรือผู้ประกอบการ อาจดูจากสินค้าเดิมจากท้องตลาด และสามารถออกแบบตามนั้นได้เลย เช่น สินค้าที่เป็นแคปซูล ออกแบบให้บรรจุใส่ในขวด สินค้าที่เป็นรูปแบบผง ให้ใส่ในซองเล็ก ๆ คล้าย ๆ ซองกาแฟ เป็นต้น ส่วนแบนเนอร์ ฉลาก หรือกล่องใส่สินค้า ควรมีความดึงดูดและน่าสนใจ ควรจะออกแบบโดยคำนึงถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์ ว่ามีตัวตน ภาพลักษณ์และมูลค่าในระดับไหน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าที่แบรนด์ต้องการ รวมถึงสะท้อนนิสัยและบุคลิกภาพของเจ้าของแบรนด์เองด้วย

6.กระบวนการการผลิต

ในขั้นตอนการผลิตจะทำให้เราได้เห็นตัวผลิตภัณฑ์ของเราที่เป็นรูปเป็นร่าง เราจะรู้ได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะมีลักษณะเป็นเช่นไร เราควรจะควบคุมการทำงานให้เป็นไปในทิศทางใด ในโรงงานที่รับผลิตอาหารเสริมหากเราใช้บริการโรงงานเหล่านั้นเราควรที่จะเข้าไปดูขั้นตอนการผลิตได้ด้วยตนเอง เพื่อที่เราจะสามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าเราได้ เราอาจจะไม่รู้ว่าจะต้องผสมอะไรอย่างไร ใช้เครื่องมือเครื่องจักรยังไง แต่เราสามารถเห็นได้ถึงความสะอาด การผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐานจากขั้นตอนนี้เอง

7.ทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนถูกจัดจำหน่าย

เมื่อคิดค้นสูตร จนได้ผลิตภัณฑ์ตัวอย่างมาแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องทดสอบกับกลุ่มทดลองก่อน เพื่อให้ทราบถึงประสิทธิภาพ ความพึงพอใจ และความปลอดภัยในการบริโภค ซึ่งถ้าจะให้ดีแล้ว ควรมีผลงานวิจัยของผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับด้วย เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้เป็นเอกสารประกอบยื่นจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้ได้รับการอนุมัติง่ายขึ้นค่ะ

8.ตั้งชื่อแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ให้มีความเหมาะสม

เพื่อให้อาหารเสริมของคุณ สามารถยื่นจดทะเบียน ผ่าน อย. ได้ ควรตั้งชื่อแบรนด์ของอาหารเสริม ให้ถูกต้องตามหลักการที่ อย. กำหนด เช่น ไม่ใช้คำที่อธิบายถึงสรรพคุณของสินค้าที่ตรงตัว รวมถึงคำใด ๆ ที่เป็นคำพ้องเสียงหรือลดทอนเสียงลง ก็สื่อถึงสรรพคุณนั้น ๆ ได้ เช่น Slin ที่คล้ายกับ Slim หรือ Vac C ที่ถูกลดทอนเสียงลงให้คล้ายกับคำว่า Vaccine เป็นต้น ดังนั้น หากจะตั้งให้ถูกต้องตามระเบียบของ อย. ให้เจ้าของแบรนด์ตั้งตามหลักพจนานุกรมไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษที่มีความหมาย แต่ต้องไม่สื่อถึงสรรพคุณ

9. ยื่นจดทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อย.)

เมื่อได้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่เสร็จสมบูรณ์ ก็ถึงเวลายื่นจดทะเบียนกับ อย. เพื่อให้สามารถจัดจำหน่ายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยการเตรียมเอกสารตามที่อย. กำหนด ไม่ว่าจะเป็นสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนร้าน แผนที่ตั้งร้านบริษัท ฯลฯ พร้อมผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง 2 ชุด ที่มีฉลากเรียบร้อย ยื่นให้ทาง อย. ตรวจสอบ หากอาหารเสริมของคุณผ่านเกณฑ์ ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด เพียงเท่านี้เจ้าของแบรนด์ก็จะสามารถวางขายอาหารเสริมได้อย่างสบายหายห่วงค่ะ

10. ช่วงโปรโมทและบริการหลังการขาย

สำหรับช่วงโปรโมทสินค้า เจ้าของแบรนด์ต้องเน้นทำการตลาดบนโลกออนไลน์ เนื่องจากเป็นสื่อที่สามารถสร้าง Content ในการโปรโมทสินค้าได้หลากหลาย และผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นอีกด้วย รวมถึงการบริการหลังการขายนั้น เจ้าของแบรนด์ก็ควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะจริงอยู่ค่ะ ที่การบริการในช่วงก่อนขายสินค้าและขณะที่ขายสินค้าอยู่เป็นช่วงที่สำคัญ แต่สิ่งที่จะมัดใจลูกค้า และสร้าง Customer Royalty ได้ในระยะยาวนั้น คือบริการหลังการขายนั่นเอง เพราะฉะนั้น ต้องไม่ลืมที่จะมี Policy ของการบริการหลังการขายที่ดีด้วยนะคะ

อย่างไรก็ดี กระบวนการการสร้างแบรนด์ทั้ง 10 ขั้นตอนนี้ เป็นเพียงขั้นตอนพื้นฐานเท่านั้น ซึ่งในแต่ละแบรนด์อาจมีขั้นตอนที่มากกว่านี้แตกต่างกันออกไป เนื่องจากที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นค่ะว่า อาหารเสริมมีหลายประเภท ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีขั้นตอนการสร้างแบรนด์ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมแนวคิดที่จะต่อยอดแบรนด์ในอนาคตด้วยนะคะ เพราะนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง

บทความที่น่าสนใจ

รับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเองง่ายๆ ครบทุกวงจร

ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!

ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ

บริการของเรา มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ใส่ใจทุกกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐาน 

ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือ สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง หรือ ผู้ที่อยากขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นขายครีมออนไลน์ ขายอาหารเสริมออนไลน์ สามารถปรึกษาข้อมูลได้ที่ บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิว รับผลิตคอลลาเจน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพทุกชนิด

มีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็กเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ

Charmace รับผลิตกาแฟ ทุกสูตร ครบวงจร ด้วยดีลที่ดีที่สุด

รับผลิตกาแฟ ทุกสูตร เป็นเรื่องที่เจ้าของแบรนด์หลาย ๆ ท่านคงกำลังหาข้อมูล หรือ คุ้นเคยดี กับการหาโรงงานรับผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ว่าควรเลือกที่ไหนดี และมีวิธีเลือกอย่างไร เพราะในปัจจุบันนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์การดูแลสุขภาพ เป็นกระแสที่กำลังได้รับความนิยมทั้งในคนอายุน้อย วัยทำงาน และวัยผู้สูงอายุ ยิ่งในช่วงของโรคระบาดที่ผ่านมาก็ยิ่งทำให้เทรนด์นี้ได้รับความนิยมมากกว่าเดิม จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดแบรนด์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพขึ้นมามากมายนั่นเองค่ะ อย่างไรก็ดี ยังมีเจ้าของแบรนด์อีกหลายท่านที่กำลังอยู่ในช่วงเป็นนักธุรกิจมือใหม่ ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาดูกันค่ะว่าการจะเริ่มต้นทำแบรนด์กาแฟรวมไปถึงขั้นตอนการเลือกโรงงานรับผลิตผลิตภัณฑ์ต้องมีรายละเอียดอะไรบ้างที่เจ้าของแบรนด์พึงรู้

รับผลิตกาแฟ ทุกสูตร ครบวงจร ด้วยดีลที่ดีที่สุด

รับผลิตกาแฟ เลือกโรงงานอย่างไร มีเทคนิคการเลือกอย่างไรสำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่?

โรงงานผลิตกาแฟ ชงดื่ม ในปัจจุบันนี้มีกาแฟหลากหลายแบรนด์ที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาด แต่ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากจะสร้างแบรนด์กาแฟเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็ เจ้าของแบรนด์จะต้องสร้างความโดดเด่นให้แบรนด์กาแฟของคุณ เพื่อสร้างการจดจำให้ลูกค้า ซึ่งก็คงเป็นเรื่องที่ยากใช่ไหมล่ะคะกับการที่ให้เจ้าของธุรกิจมือใหม่มานั่งคิดสูตรกาแฟ เพราะอาจไม่ได้มีความรู้และความชำนาญมากนัก

ซึ่งอาจจะดีกว่าหากเจ้าของแบรนด์มีทีมที่สามารถให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำว่าจะต้องสร้างแบรนด์กาแฟอย่างไรให้แตกต่างและสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้อย่างอยู่หมัด เพราะฉะนั้นวันนี้ Charmace จะพาเจ้าของแบรนด์กาแฟมือใหม่ทุกคนไปศึกษาเกี่ยวกับช่องทางการสร้างแบรนด์กาแฟแบบง่าย ๆ เพื่อสร้างให้โดนใจกลุ่มลูกค้าในทุกเพศทุกวัย ซึ่งจะมีขั้นตอนอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ

ทำความรู้จัก “กาแฟ”

กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากเมล็ดซึ่งได้จาก ต้นกาแฟ หรือมักเรียกว่า เมล็ดกาแฟ คั่ว มีการปลูกต้นกาแฟในมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก “กาแฟเขียว” (กาแฟซึ่งยังไม่ผ่านการคั่ว) เป็นหนึ่งในสินค้าทางการเกษตรซึ่งมีการซื้อขายกันมากที่สุดในโลก กาแฟมีส่วนประกอบของคาเฟอีน ทำให้มีสรรพคุณชูกำลังในมนุษย์ ปัจจุบันกาแฟเป็นเครื่องดื่มซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

ศึกษาให้เข้าใจการตลาด “กาแฟ” ในยุคปัจจุบัน

อันดับแรกก่อนที่เราจะสร้างแบรนด์กาแฟ เราต้องเข้าใจการตลาดของกาแฟในยุคปัจจุบันให้ดีเสียก่อน ซึ่งถ้าเป็นในอดีตการขายกาแฟ ก็จะเน้นไปที่รสชาติ แหล่งเพาะปลูก หรือสายพันธุ์ของกาแฟ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันนี้การตลาดได้เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคเริ่มมองหาความคุ้มค่าในตัวผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้กาแฟต้องมีจุดเด่นเพิ่มเติมขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นกาแฟลดความอยากอาหาร กาแฟผสมคอลลาเจน กาแฟบำรุงสุขภาพ ยิ่งใส่จุดเด่นไปมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้กาแฟแบรนด์นั้นได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจุดเด่นที่กล่าวอ้างจะต้องมีความปลอดภัยและได้รับการรับรองว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภคจริง 100%

จาก “กาแฟธรรมดา” สู่ “กาแฟเพื่อสุขภาพ” แบรนด์ที่นักธุรกิจอยากลงทุน

หลาย ๆ คนอาจคุ้นชินกับการนั่งทานกาแฟสด หรือการไปนั่งทานที่ร้านเพื่อรับกลิ่น สร้างบรรยากาศในการดื่มกาแฟ จริงอยู่ค่ะที่การไปนั่งดื่มกาแฟสดที่ร้าน เป็นวิธีการที่ค่อนข้างดีในการช่วยให้ผ่อนคลายในระหว่างทำงานได้ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงมีผู้บริโภคให้ความสนใจกับการรับประทานกาแฟเช่นนี้อยู่ หากแต่การนั่งดื่มกาแฟที่ร้าน เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้บริโภคบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ผู้ที่ทำงาน Freelance หรือ ผู้ที่สามารถทำงานออนไลน์ได้ไม่ต้องเร่งรีบเข้าออฟฟิศ เป็นต้น แต่ก็ยังมีผู้บริโภคอีกกลุ่มหนึ่งที่ชีวิตติดอยู่กับการเร่งรีบ ต้องทำงานที่ออฟฟิศและไม่สามารถไปนั่งทานกาแฟสดได้บ่อย ๆ แถมยังมีวัยรุ่นหนุ่มสาวที่สมัยนี้ก็นิยมหันมาทานกาแฟมากขึ้น และผู้สูงอายุที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ แต่ก็ไม่สามารถทานได้มากเท่าเมื่อก่อนเพราะกลัวเป็นปัญหาสุขภาพ สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมาจึงเป็นจุดเริ่มต้นของกาแฟเพื่อสุขภาพที่สามารถตีตลาดในลูกค้าได้หลาย ๆ กลุ่ม เพราะเป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่รักของใครหลาย ๆ คนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เจ้าของแบรนด์สามารถเพิ่มเติมสรรพคุณในการบำรุงสุขภาพให้เจาะจงในแต่ละกลุ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งยิ่งไปกว่านั้นการทำธุรกิจกาแฟเพื่อสุขภาพยังสามารถแปรรูปจากกาแฟเม็ดสู่กาแฟสำเร็จรูปในซอง ชงดื่มกับน้ำร้อนได้ง่าย ๆ เพื่อสร้างความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคด้วย

กาแฟสด VS กาแฟสุขภาพแบบสำเร็จรูป แตกต่างกันอย่างไร ผู้บริโภคชอบแบบไหนมากกว่ากัน?

หลาย ๆ คนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเป็นประจำก็คงจะรู้กันดีว่ากาแฟนั้นมีอยู่สองประเภท ก็คือ กาแฟสด และ กาแฟสำเร็จรูป ซึ่งถึงแม้จะรู้ว่ามีกาแฟอยู่สองประเภท แต่บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว กาแฟทั้งสองแบบนี้มันต่างกันยังไง ดังนั้น เมื่อเจ้าของแบรนด์อยากสร้างแบรนด์กาแฟ จึงมีความจำเป็นที่ต้องมาดูข้อแตกต่างของกาแฟทั้ง 2 แบบนี้ค่ะ

วิธีการผลิต

เริ่มตั้งแต่วิธีการผลิตกันเลย กาแฟสำเร็จรูปนั้นจะมีลักษณะเป็นผงมาให้อยู่แล้ว จึงต้องผ่านกระบวนการแปรรูปหลากหลายขั้นตอนมากกว่ากาแฟสด ทั้งการคั่ว บด สกัด ทำให้เข้ม และทำให้แห้ง โดยอาจจะผลิตออกมาเป็นผงกาแฟอย่างเดียวเลย หรืออาจจะมีการนำไปผสมกับน้ำตาลและครีมเทียมเพื่อให้มีรสชาติกลมกล่อมมากขึ้นอย่างที่ทุกคนรู้จักกันดีในรูปแบบ “กาแฟซอง” วิธีการผลิตก็คือจะใช้เครื่องทำแห้งแบบพ่น  (Spray drying) หรือเครื่องทำแห้งแบบระเหิด (Freeze drying) เพื่อให้ได้เป็นเกร็ดผงของกาแฟ ส่วนสำหรับกาแฟสดจะมีขั้นตอนน้อยกว่า เริ่มตั้งแต่การเก็บเมล็ดมาบ่มเพาะ คั่ว และบด ก็สามารถนำไปชงต่อได้เลย ซึ่งบางครั้งก็อาจจะผลิตเป็นเมล็ดกาแฟที่ยังไม่ผ่านการบดก็ได้ ตามที่เรามักจะเห็นในร้านกาแฟนั่นเอง

วิธีการชงดื่ม

ถึงแม้กระบวนการผลิตจะน้อยกว่า แต่สำหรับการชงดื่มนั้น กาแฟสดจะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากกว่าแบบสำเร็จรูป เนื่องจากตัวเมล็ดกาแฟยังไม่ผ่านการบดให้เป็นผง จึงต้องนำมาบดซะก่อน แล้วจึงเอาไปชงตามแต่ละวิธีที่แตกต่างกันตามความชอบของผู้ดื่ม ไม่ว่าจะเป็นการชงแบบผ่านกระดาษกรอง (Drip) ชงแบบใช้น้ำร้อนโดยตรง (French Press) หรือใช้ไอน้ำ (Espresso) ซึ่งแต่ละวิธีก็จะได้รสชาติและความเข้มข้นที่ต่างกันด้วยนะ ส่วนกาแฟสำเร็จรูปนั้นมีวิธีการชงที่ง่ายและรวดเร็วมาก ๆ นั่นก็คือนำผงกาแฟไปชงกับน้ำร้อนก็สามารถดื่มได้แล้ว ถ้าเป็นผงกาแฟอย่างเดียวก็อาจจะเติมน้ำตาล นม หรือครีมเทียมตามใจชอบ แต่ถ้าเป็นกาแฟซองก็มักจะมีการผสมมาให้แล้ว เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องทำอะไรเลย

รสชาติและกลิ่นหอม

กระบวนการผลิตที่มีมากมายหลายขั้นตอนของกาแฟสำเร็จรูปนั้น ย่อมส่งผลถึงรสชาติและกลิ่นหอมดั้งเดิมของกาแฟที่ต้องเสียไป เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับความรวดเร็วและสะดวกสบาย หลาย ๆ คนจึงรู้สึกว่าทำไมชงกาแฟดื่มเองที่บ้านไม่อร่อยเท่าที่ร้านกาแฟ? นั่นก็เป็นเพราะร้านกาแฟมักจะใช้เมล็ดกาแฟสด ซึ่งมีขั้นตอนการชงที่พิถีพิถันมากกว่า มีรสที่เป็นธรรมชาติและมีเสน่ห์มากกว่า รวมทั้งรสชาติความเข้มข้นและกลิ่นหอมก็มากตามไปด้วย

ข้อสรุป ผู้บริโภคชอบแบบไหนมากกว่า?

คงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากสำหรับการจะตีกรอบคำตอบให้ตายตัวค่ะ ว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมการทานกาแฟ หรือ ชื่นชอบกาแฟแบบไหนมากกว่ากัน ซึ่งเราจะขอสรุปว่า กาแฟแต่ละแบบนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ซึ่งข้อแตกต่างดังกล่าว ทำให้มันตีตลาดกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่ม แต่ก็ยังไม่สามารถการันตีได้อีกว่า ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟสดจะไม่ดื่มกาแฟสำเร็จรูป หรือ ผู้ที่สันทัดการดื่มกาแฟสำเร็จรูปจะไม่เข้าไปนั่งดื่มกาแฟสดที่ร้านในวันว่าง เจ้าของแบรนด์จึงสามารถหายห่วงได้ว่า แม้กาแฟทั้ง 2 แบบนี้จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ผู้บริโภคก็มีโอกาสที่จะรับประทานกาแฟทั้งสิ้น

3 ประเภทของกาแฟสำเร็จรูปที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้

นอกจากกาแฟจะถูกแบ่งตามสายพันธุ์ต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถแบ่งกาแฟสำเร็จรูปออกได้เป็น 3 แบบอีกด้วยค่ะ ดังนี้

1.กาแฟกระป๋อง

เป็นกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม ที่เห็นได้ตามร้านค้าทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ให้เลือกด้วยกัน โดยพบว่ากาแฟกระป๋องพร้อมดื่มนี้ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ.1969 โดยผู้ค้นพบเป็นชาวญี่ปุ่นนั่นเอง และกาแฟกระป๋องนี้ ก็นิยมแช่เย็นเพื่อดื่มเป็นเครื่องดื่มเย็น ๆ คลายร้อนกันอีกด้วย ในวันที่อากาศร้อนจัด และหากคุณเองก็ต้องการความกระปรี้กระเปร่า กาแฟกระป๋องก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

2.กาแฟผงสำเร็จรูป

เป็นกาแฟแบบผงสำเร็จรูป ที่สามารถชงให้ละลายในน้ำร้อนได้ทันที ซึ่งก็เป็นกาแฟที่ชงง่ายมาก แถมไม่มีกากกาแฟหลงเหลืออยู่อีกด้วย ส่วนรสชาติของกาแฟนั้น ต้องบอกเลยว่าอร่อยสุด ๆ ทั้งให้ความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้อย่างง่ายดาย โดยพบว่ากาแฟผงสำเร็จรูปนี้นั้น ถูกค้นพบขึ้นในปี ค.ศ.1901 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันและชาวญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งการผลิตกาแฟผงประเภทนี้นั้นจะมีด้วยกัน 2 วิธี ดังนี้

ผลิตในระบบเย็น

คือการนำน้ำกาแฟไปแช่ในช่องแช่แข็งที่มีความเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง และมีความดันสูง จนน้ำกาแฟแข็งและกลายเป็นเกล็ดในที่สุด ซึ่งก็จะได้ผงกาแฟสำเร็จรูป ในรูปแบบของเกล็ดแข็ง สามารถนำมาชงในน้ำร้อนให้ละลายได้ในทันที โดยการผลิตกาแฟผงสำเร็จรูปด้วยวิธีนี้ จะช่วยเก็บรักษากลิ่นของกาแฟให้มีความหอมกลมกล่อมและมีรสชาติที่เข้มข้น อร่อยน่าดื่มมากค่ะ

ผลิตในระบบพ่นแห้ง

เป็นการนำเมล็ดกาแฟมาคั่วแล้วนำมาต้มสักพัก จากนั้นให้นำน้ำกาแฟที่ได้มาพ่นเป็นละอองเข้าไปในอากาศที่ร้อนจัด ให้น้ำระเหยออกไป เหลือแต่ผงกาแฟมาแทนที่ ซึ่งอาจหยุดที่ขั้นตอนนี้ หรือจะทำซ้ำๆ จนผงกาแฟมีลักษณะเป็นเกล็ดฟูก็ได้ ซึ่งก็จะทำให้ผงกาแฟละลายน้ำได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากทีเดียวค่ะ

3. กาแฟสำเร็จรูปชนิดปรุงสำเร็จ

เป็นกาแฟสำเร็จรูปที่เหมือนกับกาแฟผงสำเร็จรูปนั่นเอง แต่สำหรับประเภทนี้ จะมีการปรุงรสชาติให้กลมกล่อมมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ในซอง สามารถชงดื่มได้ทันทีโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลและคอฟฟี่เมตเพิ่มไปทีหลัง ซึ่งก็เป็นประเภทของกาแฟที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน

“กาแฟเพื่อสุขภาพ” คือ “กาแฟลดความอ้วน” เท่านั้น ความเชื่อนี้ จริงหรือไม่?

หลายคนมองว่า กาแฟเพื่อสุขภาพนั้นมีดีแค่เรื่องการลดความอ้วน ที่สาว ๆ ชื่นชอบกัน แต่ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์กาแฟหลากหลายยี่ห้อที่คิดค้นสูตรและพัฒนาส่วนผสมให้พิเศษยิ่งขึ้น เพื่อทำให้กาแฟเพื่อสุขภาพนั้น  มีคุณค่าต่อร่างกายมากขึ้น แล้วเราจะเลือกกาแฟเพื่อสุขภาพยี่ห้อไหนดี ตามมาดูกัน

ประโยชน์ของกาแฟเพื่อสุขภาพต้องช่วยลดความอ้วน ควบคุมน้ำหนักเท่านั้นหรือไม่?

สารคาเฟอีนในกาแฟมีฤทธิ์เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้สมอง และช่วยขจัดความอ่อนล้า โดยได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า มีคุณสมบัติเป็น “เทอร์โมเจนีซีส” (Thermogenesis) ซึ่งสารชนิดนี้นั้นคือ สารเร่งการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย มีผลทำให้ไขมันที่สะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายถูกสลายเป็นพลังงานความร้อน  จึงมีส่วนช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงได้ แต่ต้องดื่มในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นซึ่งอาจมีโทษต่อร่างกายได้  ในวงการกาแฟเพื่อสุขภาพ จึงมีการค้นคว้าและเพิ่มส่วนผสมที่มีคุณประโยชน์ในการดูแลรูปร่าง หรือกระตุ้นการเผาผลาญเข้าไปเสริม เช่น สารสกัดจากถั่วขาวที่สามารถยับยั้งการย่อยสลายแป้ง และไขมัน หรือแอล-คาร์นิทีน  ที่มีส่วนช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ลดมวลไขมัน  ส่วนมากจะแนะนำให้ดื่มก่อนออกกำลังกาย เพื่อให้มีการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น

จากการศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟสามารถทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น  มีคำแนะนำว่าอาจจะดื่มกาแฟสักแก้วประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย และประโยชน์ดี ๆ ที่มากกว่าดื่มเพื่อลดความความอ้วน ได้แก่…

  • ชะลอการเสื่อมโทรมไม่ให้แก่ก่อนวัย หากดื่มในปริมาณที่พอดี
  • ลดอาการปวดหัวและไมเกรนปวดศีรษะ เพราะคาเฟอีนช่วยขยายหลอดเลือด
  • กระตุ้นประสาทส่วนกลางทำให้กระปรี้กระเปร่า สดชื่น ตื่นตัว
  • ดีต่อตับ เนื่องจากกาแฟดำมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งตับ ไวรัสตับอักเสบ ลดไขมันสะสมที่ตับ และลดการเกิดโรคตับแข็งจากการดื่มสุรา นอกจากนี้ 80% ของผู้ที่ดื่มกาแฟดำ 4 แก้วขึ้นไปในทุก ๆ วัน มีอัตราการเกิดโรคที่เกี่ยวกับตับต่ำกว่าผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟดำ
  • กาแฟมีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ ทำให้แบคทีเรียและสารพิษจะถูกขับออกมาอย่างเป็นปกติ

ซึ่งจากที่กล่าวมาหลาย ๆ คนก็สามารถเห็นได้แล้วว่ากาแฟมีประโยชน์อื่น ๆ อีก ไม่ใช่เพียงการลดความอ้วนเท่านั้น  แต่ยังสามารถสร้างสูตรบำรุงสุขภาพในมิติอื่น ๆ ได้อีก

กาแฟเพื่อสุขภาพในปัจจุบัน มีสูตรไหนบ้าง?

จากที่กล่าวไปข้างต้น เกี่ยวกับประโยชน์ของกาแฟ จึงทำให้มันสามารถแตกย่อยออกมาได้อีกหลาย ๆ สูตร ไม่ใช่เพียงลดความอ้วนค่ะ ซึ่งจะมีสูตรไหนที่เจ้าของแบรนด์สามารถนำไปต่อยอดได้บ้าง เรามาดูกันค่ะ

กาแฟเพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ

ถือเป็นอีกหนึ่งสูตรที่ค่อนข้างได้รับความนิยมค่ะ เนื่องจากบุตรหลานมักซื้อเป็นของฝากที่เหมาะกับผู้สูงวัย ช่วยทำให้สมองตื่นตัวและรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน มีสมาธิมากขึ้น จึงช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคความจำเสื่อมได้ เพราะสารสกัดบางตัวจากกาแฟสูตรนี้ มีส่วนช่วยกระตุ้นประสาท และพัฒนาระบบการรับรู้ให้ดีขึ้น พร้อมทั้งช่วยชดเชยการเสื่อมสภาพของระบบประสาทได้อีกด้วย นอกจากนี้กลิ่นหอม ๆ ของกาแฟ ยังช่วยรู้สึกสดชื่น ถือว่าเป็นกลิ่นอโรม่า ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้

กาแฟผสมสมุนไพร

กาแฟสูตรนี้จะมีส่วนผสมของสมุนไพรบางชนิด เช่น เห็ดหลินจือ โสม กระชายขาว โดยจะผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน ทันสมัยทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้กาแฟขั้วบดสำเร็จรูปที่ดีที่สุด รสชาติกลมกล่อมนุ่มละมุน ถูกปากคนทุกกลุ่ม คุณประโยชน์ครบครัน จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคหลาย ๆ คนนั่นเองค่ะ

กาแฟเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ชาย

ในการเลือกทาน กาแฟผู้ชาย นั้นจะเห็นได้ว่าเป็นวิธีการที่ค่อนข้างง่ายในการหาเครื่องดื่มที่มาช่วยในการทำงานให้ตัวของเราเองนั้นมีการตื่นตัวตลอดเวลา และยังเป็นสิ่งที่ช่วยบำรุง สรรพคุณในการเสริมสมรรถนะทางร่างกายให้รู้สึกดียิ่งขึ้น จากการดื่มกาแฟที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน ที่ช่วยในการตื่นตัวให้แก่ลูกค้ากลุ่มนี้นั่นเองค่ะ

กาแฟเพื่อสุขภาพสำหรับผู้หญิง

กาแฟสำหรับผู้หญิง มักมีส่วนช่วยในเรื่องบำรุงผิวพรรณต่าง ๆ โดยเจ้าของแบรนด์สามารถคิดค้นหรือออกแบบให้ส่วนผสมเป็นได้ทั้งกาแฟสำเร็จรูป โกโก้ เครื่องดื่มธัญชาติ หรือเครื่องดื่มชนิดผงอื่น ๆ รวมถึงการผสมสารสกัดอื่น ๆ เพื่อให้เกิดคุณค่า เพิ่มความอร่อยได้อีกด้วย ทานง่าย เหมาะกับผู้หญิงในทุกวัยที่ไม่ถนัดดื่มกาแฟที่มีรสชาติเข้มค่ะ

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ “กาแฟเพื่อสุขภาพ”

สำหรับขั้นตอนของการสร้างแบรนด์กาแฟนั้น ต้องบอกก่อนค่ะว่า ค่อนข้างมีความซับซ้อนอยู่พอควร เนื่องจากเจ้าของแบรนด์ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การศึกษาการตลาดของกาแฟเพื่อสุขภาพ ไปจนถึงการเลือกวัตถุดิบของตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะมีความยาก-ง่ายอย่างไรบ้างนั้น เรามาดูกันค่ะ

ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาตลาดกาแฟ

แม้ในอดีตที่ผ่านมา การขายกาแฟ ก็จะเน้นไปที่รสชาติ แหล่งเพาะปลูก หรือสายพันธุ์ของกาแฟ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันนี้การตลาดได้เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคเริ่มมองหาความคุ้มค่าในตัวผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้กาแฟต้องมีจุดเด่นเพิ่มเติมขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นกาแฟลดความอยากอาหาร กาแฟผสมคอลลาเจน กาแฟบำรุงสุขภาพ ยิ่งใส่จุดเด่นไปมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้กาแฟแบรนด์นั้นได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่ 2 สร้างความโดดเด่นให้แก่แบรนด์กาแฟของตนเอง

เมื่อการตลาดของกาแฟหลาย ๆ แบรนด์เริ่มเกิดทางตัน ทำให้กาแฟที่ออกสู่ท้องตลาดนั้นเหมือนกันแทบจะทั้งหมด ซึ่งถ้าเจ้าของแบรนด์ต้องการที่จะสร้างแบรนด์กาแฟเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็ อาจเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ ที่สามารถสร้างความโดดเด่นให้สูตรกาแฟได้ พร้อมทั้งมีสรรพคุณต่อผู้บริโภคอีกด้วย เช่น อาจเพิ่มสมุนไพรต่าง ๆ โดยมีงานวิจัยมาว่า  กาแฟผสมกระชายขาวจะช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้แข็งแรงและสามารถช่วยลดความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี

ขั้นตอนที่ 3 พึงระลึกว่าสินค้าต้องตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างครอบคลุม

อย่างที่เรากล่าวไปแล้วข้างต้น ว่าถ้าแบรนด์กาแฟของคุณยิ่งมีความแตกต่างจากท้องตลาดมากเท่าไหร่ ก็จะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โดยจากตัวอย่างจากขั้นตอนก่อนหน้านี้ที่กล่าวถึงกาแฟผสมกระชายขาว เป็นตัวอย่างที่สินค้าค่อนข้างมีความโดดเด่น แต่มิใช่เพียงโดดเด่นอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ เพราะสรรพคุณของกระชายขาวยังสามารถตอบโจทย์ผู้ดื่มอย่างครอบคลุมความต้องการของผู้ที่ดื่มกาแฟได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรสชาติและสรรพคุณ

ขั้นตอนที่ 4 ยิ่งสินค้าของแบรนด์ได้รับการการันตีจากงานวิจัย ยิ่งมีผลดี

หากเจ้าของแบรนด์ต้องการสร้างแบรนด์กาแฟให้เป็นที่ยอมรับและสามารถเข้าไปนั่งในใจของลูกค้าได้นั้น ในขั้นตอนการผลิตที่โรงงานผลิตกาแฟ เจ้าของแบรนด์จะต้องเน้นย้ำในเรื่องของส่วนผสม คุณภาพ รสชาติ และการวิจัย ว่ามันจะไม่มีผลกระทบด้านลบต่อลูกค้า ยิ่งถ้ามีการรับรองจากความปลอดภัยจากหน่วยงานต่าง ๆ ก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่แบรนด์สินค้าของเจ้าของแบรนด์เองด้วยค่ะ

ซึ่งจากที่กล่าวมา ทุก ๆ ขั้นตอนของการสร้างแบรนด์มีความสำคัญเหมือนกันหมดค่ะ ซึ่งรวมไปถึงขั้นตอนการผลิตกาแฟเพื่อสุขภาพที่เป็นไปในแบบสำเร็จรูป ซึ่งต้องมีกระบวนการการผลิตจากโรงงานด้วย จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ

ขั้นตอนการสร้างกาแฟเพื่อสุขภาพแบบสำเร็จรูป

กาแฟผงสำเร็จรูป (instant coffee) เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกาแฟ (coffee) ที่สะดวกในการชง มีลักษณะ เป็นผง หรือเกล็ดละลายได้ดีในน้ำร้อน การผลิตกาแฟสำเร็จรูป เริ่มต้นจากการทำกาแฟคั่วบด การสกัดน้ำกาแฟเข้มข้น แล้วผ่านการทำแห้งด้วยเครื่องทำแห้งแบบพ่นฝอย (spray drier) หรือเครื่องทำแห้งแบบระเหิด (freeze drier)

กระบวนการผลิตกาแฟผงกึ่งสำเร็จรูป

การผลิตกาแฟผงกึ่งสำเร็จรูปนั้น เป็นการสกัดและทำแห้งของแข็งที่ละลายน้ำได้ใน กาแฟและองค์ประกอบของสารให้กลิ่นให้ผง หรือเป็นเมล็ดเล็ก ๆ วัตถุดิบที่ใช้สำหรับผลิตกาแฟผงสำเร็จรูป คือนำเมล็ดกาแฟกะลา (parchment coffee) มาขัดกะลาได้เป็นเมล็ดกาแฟดิบ หรือกาแฟสาร (green coffee bean) ใช้ทั้งกาแฟพันธุ์อาราบิก้า (arabica) และ โรบัสต้า (robusta) หรือผสมกันขึ้นกับสูตร รสชาติ ความขม ที่ต้องการ

กรรมวิธีการผลิตกาแฟผงสำเร็จรูป

กรรมวิธีการผลิตกาแฟผงสำเร็จรูปประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญดังนี้

1. การคัดคุณภาพและเก็บรักษาเมล็ดกาแฟ (Green Bean Cleaning & Storage)

ก่อนการผลิต เมล็ดกาแฟดิบที่ถูกเก็บไว้ในถังเก็บ (storage bin) ควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ และ อุณหภูมิที่ต่ำ ป้องกันการเจริญของเชื้อรา และแมลง เมล็ดกาแฟ จะถูกนำมาแปรรูปเบื้องต้นด้วยขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ ดังนี้

  • ทำความสะอาดแบบแห้ง เช่น การใช้ลมเป่า
  • การคัดขนาดด้วยเครื่องคัดขนาด
  • การคัดสีด้วยเครื่องคัดสี

เพื่อให้ได้เฉพาะเมล็ดกาแฟคุณภาพดี เข้าสู่กระบวนการที่ 2 ต่อไป

2. การผสมกาแฟ (Blending)

เป็นขั้นตอนการนำกาแฟพันธุ์ต่าง ๆ เช่น โรบัสต้า (robusta) อาราบิกา (arabica) มาผสม (mixing) กันตามสูตรเฉพาะ เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติที่ต้องการในเครื่องผสม

3. การคั่ว (Roasting)

การคั่ว เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการผลิตกาแฟ โดยกลิ่นรสสุดท้ายของกาแฟจะขึ้นกับวิธีการคั่ว ตลอดจนสภาวะที่ใช้คั่วโดยอุณหภูมิที่เหมาะสมในการคั่วอยู่ที่ประมาณ 200 องศาเซลเซียส

4. การบด (Grinding)

การบดมีลักษณะดังนี้คือ 1) แบบหยาบ 2) แบบหยาบปานกลาง 3) แบบละเอียด 4) แบบละเอียดมาก โดยใช้เครื่องบดมาตรฐานเรียกว่า motorized grinders

5. การสกัด (extraction)

เพื่อแยกส่วนประกอบที่ละลายน้ำได้ของกาแฟที่ผ่านการคั่วและการบดละเอียดแล้ว โดยใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย เพื่อให้ได้ของแข็งที่ละลายได้ทั้งหมด ให้ละลายออกมาอยู่ในน้ำ ปกติจะสกัดจนได้ สารละลายที่มีความเข้มข้นประมาณ 15-25 % w/w การสกัดจะทำภายใต้ความดันสูงกว่าความดันบรรยากาศ เพื่อให้อุณหภูมิสูงกว่า จุดเดือดของน้ำเพื่อเพิ่มอัตราการชะละลาย

5.1 การสกัดแบบกะ (batch extraction)

เป็นวิธีการที่ใช้กันทั่วไป ทำงานหลักการเดียวกับเครื่องสกัดกาแฟขนาดเล็กที่ใช้ตามร้านกาแฟ โดยนำกาแฟที่คั่วบรรจุในภาชนะ จากนั้นจะผ่านน้ำร้อนเข้าไปสกัด ของแข็ง ที่ละลายน้ำในกาแฟ น้ำกาแฟจะถูกปล่อยออกไป อุณหภูมิที่ใช้ในการสกัดอยู่ที่ 175 องศาเซลเซียส ภายใต้ความดัน สารละลายที่ได้จะมีความเข้มข้นประมาณ 15-25% น.น./น.น. เข้าสู่กระบวนการทำแห้งต่อไป

5.2 การสกัดแบบต่อเนื่อง (continuous extraction)

กาแฟคั่วบดถูกป้อนเข้าสู่เครื่องสกัด อย่างต่อเนื่อง ด้วยเกลียวลำเลียง (screw conveyor) ที่วางเป็นมุมเอียง เป็นเครื่องสกัดแบบไหลสวนทาง (Counter current extractor) คือ ทางเข้าของน้ำร้อนจะอยู่ทางด้านบน จะอยู่คนละด้านกับการเข้าของกาแฟคั่วบด เพื่อสกัดของแข็งที่ละลายน้ำได้ในกาแฟอย่างต่อเนื่อง จากนั้นน้ำกาแฟที่ได้จะปล่อยออกทางด้านล่าง การทำงานของระบบต้องใช้ความดันและอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส

5.3 Slurry extraction

กาแฟและน้ำจะถูกกวนเข้าด้วยกันในแทงค์และจะแยกออกจากกันโดยการหมุนเหวี่ยง (centrifuge)

6. การทำให้เข้มข้น

การทำให้เข้มข้น (concentration) เพื่อแยกน้ำออกจากสารสกัดจากกาแฟให้เข้มข้นขึ้น ก่อนการทำแห้งด้วยเครื่องระเหย (evaporator) อุตสาหกรรมขนาดใหญ่มักใช้เครื่องระเหยแบบหลายขั้นตอน (multiple effect evaporator)

7. การแยกสารที่ให้กลิ่นหอม (aroma recovery)

เป็นการถนอมกลิ่นกาแฟไม่ให้สูญเสียไปกับกระบวนการผลิตและให้สภาพของกลิ่นคงความหอมและสดใหม่อยู่เสมอ

8 การปรับค่ามาตรฐาน (standardization)

เป็นการวัดความเข้มข้นของกาแฟให้ได้มาตรฐานตามที่ต้องการ

9. การทำแห้ง (dehydration)

  • เครื่องทำแห้งแบบพ่นฝอย (spray drier)

เป็นการทำให้น้ำกาแฟเกิดเป็นละอองเล็กขนาดหยดน้ำ (เส้นผ่านศูนย์กลาง 100-200 ไมโครเมตร) ในกระแสลมร้อนที่ไหลในทิศทางเดียวกัน (150-300 องศาเซลเซียส) ในถังทำแห้งขนาดใหญ่กาแฟแห้งที่ได้จะถูกแยกออกไปโดยการใช้ centrifugal atomizer ส่วนของเหลวจะถูกส่งไปยังภาชนะหมุน เพื่อสร้างขนาดของหยดสารละลายใหม่ในการสเปรย์

  • การทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง (freeze drying)

การทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งเป็นการทำแห้งโดยการทำให้ของแข็งกลายเป็นไอโดยไม่ละลายหรือเรียกว่า การระเหิด โดยน้ำกาแฟจะผ่านการแช่เยือกแข็ง (freezing) จากนั้นจึงทำการระเหิดภายใต้ความดัน

10. การบรรจุ (filling & packing)

เมื่อได้กาแฟผงสำเร็จรูปก็จะนำเข้าสู่กระบวนการบรรจุในบรรจุภัณฑ์ โดยใช้เครื่องมือใน การบรรจุภัณฑ์ หลังจากนั้นก็จะทำการบรรจุลงหีบห่อและขนย้ายไปยังโกดังพักสินค้า เพื่อรอการขนส่งต่อไป

โรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูป มีกี่แบบ เลือกแบบไหนให้เหมาะกับแบรนด์เรา?

โดยทั่วไปแล้วโรงงานที่รับผลิตอาหารเสริม หรือ กาแฟ สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกับ 2 แบบดังกล่าวกันก่อน ดังนี้ค่ะ

แบบที่ 1 โรงงานแบบ OEM

คำว่า OEM ย่อมาจากคำว่า Original Equipment Manufacturer ลักษณะของโรงงานที่รับผลิตสินค้าประเภทนี้ คือโรงงานที่มีเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตอยู่แล้ว และรับผลิตสินค้าให้ลูกค้าเพื่อนำไปติดแบรนด์ที่มีอยู่แล้วของลูกค้า เช่น ลูกค้ามีแบรนด์ที่แข็งแรงแล้วในตลาด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อะไร หรือแม้แต่อะไหล่รถยี่ห้อดัง สมาร์ทโฟน ก็อาจจะพึ่งโรงงานประเภทนี้ และโรงงานประเภทนี้มักมีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล มีเครื่องหมายรับรอง เชื่อถือได้ในเรื่องของคุณภาพที่แบรนด์ดังไว้วางใจ

ข้อดีของโรงงาน OEM

  • ช่วยลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำ
  • เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง
  • ง่ายต่อการเปลี่ยนลักษณะหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจ
  • มีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการผลิตคอยดูแล

ข้อเสียของโรงงาน OEM

  • มีต้นทุนการผลิตสูงกว่าผลิตเอง
  • หากใช้สูตรกลาง สินค้าและคุณภาพอาจจะไม่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ มากนัก

แบบที่ 2 โรงงานแบบ ODM

ODM ย่อมากจาก Original Design Manufacturer โรงงานแบบนี้มักจะพัฒนาขึ้นมาจากแบบ OEM คือเป็นโรงงานที่มีการทำวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ หากเป็นการผลิตอาหารเสริม หรือเครื่องสำอาง จะมีการคิดค้น ทำวิจัย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและจุดเด่นที่แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่เดิมในท้องตลาด การคิดพัฒนานั้นมีการทดลอง ทดสอบประสิทธิภาพ และเป็นสูตรที่ลงตัวให้มีมาตรฐานของตัวเอง อีกทั้งมีความพร้อมในการให้บริการครบวงจร อย่างที่โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม ครบวงจรนิยมทำกัน นั่นก็คือนอกจากผลิตแล้ว ยังรับออกแบบทั้งโลโก้ ฉลากสินค้า อีกทั้งจัดหาบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะและสวยงาม ถูกใจตลาด รวมถึงจดทะเบียน อย.กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ครบวงจรเพื่อลูกค้าที่มาใช้บริการผลิตเพื่อสร้างแบรนด์จะได้สะดวก และได้สินค้ารวดเร็ว มีเอกลักษณ์เฉพาะนั่นเองค่ะ

ข้อดีของโรงงาน ODM

  • ไม่ต้องออกแบบเอง สามารถขายได้เลย เหมาะกับผู้เริ่มต้นทำแบรนด์
  • หากเลือกออกแบบที่เป็น Exclusive จะได้แบรนด์สินค้าที่ไม่ซ้ำใคร
  • ช่วยลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำ สามารถย้ายฐานการผลิตไปประเทศที่ต้นทุนต่ำกว่าได้ตลอด
  • เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง
  • มีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการผลิต และการออกแบบคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

ข้อเสียของโรงงาน ODM

  • มีต้นทุนและค่าใช้จ่ายการผลิตที่สูงกว่าโรงงานประเภทอื่น เพราะมีเรื่องการออกแบบเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

สำหรับการผลิตกาแฟสำเร็จรูป เลือกโรงงานแบบไหน ดีกว่ากัน?

จากที่กล่าวไปในหลาย ๆ ครั้งค่ะว่า “กาแฟ” เป็นเครื่องดื่มที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมดื่มกัน ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า ดื่มแทนมื้ออาหาร หรือดื่มยามบ่ายเพื่อเรียกความสดชื่นคืนมา จะดีขนาดไหนหากเราจะมีธุรกิจกาแฟเป็นของตัวเอง ดังนั้น สำหรับการเลือกโรงงานเพื่อการผลิต ส่วนใหญ่เจ้าของแบรนด์กาแฟจะเลือกโรงงานประเภท OEM ค่ะ เพราะเจ้าของแบรนด์มักจะคิดค้นสูตรของตนเองมาก่อน แล้วจึงส่งทำที่โรงงาน รับผลิตกาแฟ โดยโรงงานดังกล่าวควรผ่านเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้

  1. เป็นโรงงานที่มีคุณภาพ

โรงงานผลิตการแฟสำเร็จรูปแบบ OEM ที่ดีที่สุด ต้องเป็นโรงงานผลิตสินค้าได้มาตรฐาน GMP HACCP และ ISO 9001:2015 ระดับสากล ใช้เครื่องจักรทันสมัย เทคโนโลยีใหม่ในการผลิตทุกขั้นตอน พร้อมทีมนักวิจัยผู้คิดค้นสูตรและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยความรู้และประสบการณ์ หากเป็นแบบนี้จึงจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้เริ่มต้นสร้างแบรนด์กาแฟอย่างแท้จริง

  1. มีบุคลากรที่มีความรู้

บุคลากรของโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปแบบ OEM ที่ดีที่สุด ต้องมีทีมวิจัย วิศวกรประจำกระบวนการผลิต และทีมงานการตลาดมืออาชีพที่มีความรู้ความสามารถโดยเฉพาะ จึงจะทำให้มั่นใจในทุกขั้นตอนของการสร้างแบรนด์ได้

  1. กาแฟต้องมีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะจุดเด่นคือกาแฟต้องดีที่สุด หากไม่ดียังไงก็ขายไม่ได้แน่นอน จึงต้องคัดสรรคุณภาพกาแฟมาอย่างดี

ทำไมต้องผลิตกาแฟกับ Charmace

หากเจ้าของแบรนด์ท่านใดยังไม่มีโรงงาน รับผลิตกาแฟ ที่ไหนในใจ  ทาง Charmace ขอแนะนำตัวเพื่อฝากไว้พิจารณาค่ะ

  • แนวทางสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล ของ Charmace

เนื่องจาก Charmace เป็นสถานที่ให้บริการแบบ One Step Service ดังนั้น เราจึงมีขั้นตอนการทำงานที่จะคอยให้คำปรึกษาเจ้าของแบรนด์ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยมีขั้นตอนการทำงานหลัก ๆ ต่อไปนี้ค่ะ

แผนกวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารเสริม และกาแฟ

บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด เรามีทีมนักวิทยาศาสตร์ ทีมนักวิจัย และเภสัชกร ที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญระดับสูง ที่จะคอยควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม ไม่ว่าจะเป็น แผนกวิจัยและพัฒนาฝ่ายอาหารเสริม แผนกวิจัยและพัฒนาสารสกัดสมุนไพร ตลอดจน ครีม เครื่องสำอาง ต่าง ๆ อีกทั้งทีมวิจัยและพัฒนาได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ พร้อมทดสอบและพัฒนาสูตรอาหารเสริมให้มีคุณภาพสูง พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ และปรับแต่งสูตรต่าง ๆ ตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม และให้ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

แผนกตรวจสอบความปลอดภัยอาหารเสริม QC Department

หลังจากผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาเรียบร้อย เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม ครีม สบู่ ตลอดจนเครื่องสำอาง ทุกชนิด ด้วยการควบคุมคุณภาพภายใต้มาตรฐานการรับรองระดับโลก GMP HACCP HALAL ทั้งตรวจสอบความปลอดภัยของสารปนเปื้อนทุกชนิด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่าง 100%

กระบวนการผลิตอาหารเสริม (Production)

ทุกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ อาหารเสริม ครีม สบู่ เครื่องสำอาง ทุกชิ้นของบริษัท ได้ผ่านการควบคุมอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพ รับรองคุณภาพและวิธีการผลิตตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด อีกทั้งยังควบคุมดูแล ทำความสะอาดเครื่องจักรในกระบวนการผลิตอยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และผ่านการทดสอบจากห้องแลปมาตรฐานระดับสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความไว้วางใจ ในการนำผลิตภัณฑ์สู่ท้องตลาดไปสู่มือผู้บริโภค จากโรงงานของเรา

  • มีศักยภาพที่เจ้าของแบรนด์สามารถวางใจได้

เราคือบริษัท รับผลิตกาแฟ อาหารเสริม และ สร้างแบรนด์อาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชสำอาง ครีม คุณภาพทุกชนิด อย่างครบวงจร รวมถึงควบคุมการผลิตโดยแพทย์ เภสัชกร และ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาด้านธุรกิจการตลาด เราสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และเราพร้อมที่จะบริการให้คำปรึกษา ในด้านต่าง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความสามารถ และ ประสบการณ์ในธุรกิจการผลิตเครื่องสำอาง และ อาหารเสริมอย่างมืออาชีพค่ะ นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยการการันตีต่าง ๆ เช่น

ทีมวิจัยและพัฒนาชั้นยอด

เรามีทีมงานวิจัยและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีประสบการณ์สูงคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ

มาตรฐานของโรงงานระดับสากล

มาตรฐานของโรงงาน CHARMACE ทันสมัยและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

บริการจดทะเบียน อย. ง่ายและเร็ว

บริการจดทะเบียนอย. ด้วยขั้นตอนการขึ้นทะเบียนที่รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก

ดีไซน์บรรจุภัณฑ์แบบมืออาชีพ

เรามีทีมออกแบบบรรจุภัณฑ์มืออาชีพที่ช่วยออกแบบ ให้ผลิตภัณฑ์ดูทันสมัยและตรงตามความต้องการของตลาด

พันธมิตรกับช่องทางการตลาด

เราเป็นพันธมิตรกับช่องทางการตลาดเช่นวิทยุ, TV สื่อออนไลน์, นิตยสารที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการตลาด

พร้อมเป็นที่ปรึกษาทางการตลาด

พร้อมให้คำปรึกษาด้านการตลาดเสมือนเราเป็นหุ้นส่วนกับเจ้าของแบรนด์

บทความที่น่าสนใจ

รับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเองง่ายๆ ครบทุกวงจร

ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!

ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ

บริการของเรา มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ใส่ใจทุกกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐาน 

ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือ สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง หรือ ผู้ที่อยากขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นขายครีมออนไลน์ ขายอาหารเสริมออนไลน์ สามารถปรึกษาข้อมูลได้ที่ บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิว รับผลิตคอลลาเจน รับผลิตกาแฟ อาหารเสริมบำรุงสุขภาพทุกชนิด

มีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็กเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ

รับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเองง่ายๆ ครบทุกวงจร

รับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นับว่าเป็นยุคที่หลายๆ คนเริ่มตั้งตัวหรือสร้างตัวด้วยการสร้างธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของคนสมัยใหม่มีความเบื่อหน่ายที่จะใช้ชีวิตกับงานประจำ อีกทั้งการเป็นพนักงานเงินเดือนค่อนข้างที่จะสร้างตัวได้ยากในสภาพเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก ดังนั้น การ Branding จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากที่สุดนั่นเองค่ะ อย่างไรก็ดี ในการทำธุรกิจนั้น แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องมีแน่ๆ คือ Product ของแต่ละคนที่ถูกคิดค้นขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น ครีม เครื่องสำอางค์ เครื่องดื่ม และที่นิยมที่สุดคือ “ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม” นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ ในบทความนี้ Charmace จะมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจอาหารเสริม ว่ามีขั้นตอนการสร้างแบรนด์อย่างไร กระบวนการการผลิตมีความยากน้อยแค่ไหน อยากเลือกโรงงาน รับผลิตอาหารเสริม ต้องเลือกอย่างไร ในบทความนี้เราจะมาดูไปพร้อมๆ กันค่ะ

รับผลิตอาหารเสริม สร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเองง่ายๆ ครบทุกวงจร

รับผลิตอาหารเสริม ที่ไหนดี อยากสร้างแบรนด์ของตัวเองยากไหม ต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน?

อาหารเสริมถูกผลิตออกมาให้สามารถรับประทานได้ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ด แบบแคปซูล แบบผง หรือแบบน้ำ โดยอาหารเสริมอาจเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการรักษาทางการแพทย์ ที่ผู้ป่วยต้องรับประทานภายใต้การดูแลจากแพทย์เท่านั้น หรืออาจถูกวางจำหน่ายตามร้านขายยา ดังนั้น สิ่งสำคัญของการทำแบรนด์อาหารเสริม จึงต้องมีความระมัดระวังในการระบุข้อบ่งชี้ที่ระบุบนฉลากอย่างเคร่งครัดมากๆ ค่ะ นั่นจึงเป็นเหตุให้เจ้าของแบรนด์ ต้องเลือกทีมที่ช่วยสร้างแบรนด์ และโรงงานที่รับผลิตอาหารเสริมให้ดี พิจารณาให้ถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง

อาหารเสริม คือ…

คือ สารอาหารที่ใช้รับประทานเพิ่มเติมจากมื้ออาหารหลัก อาจใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ หรือเพื่อบำรุงสุขภาพตามความเชื่อของบางบุคคล ส่วนสารอาหารที่มักถูกนำมาทำเป็นอาหารเสริม ได้แก่ วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน พืช ผัก สมุนไพรต่างๆ เป็นต้น

อาหารเสริมมีกี่ประเภท อะไรบ้าง ?

ในปัจจุบันเราจะพบว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในแบรนด์ต่างๆ จะมีการจัดจำหน่ายในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งในอดีตเราจะพบเห็นได้แต่เพียงไม่กี่ประเภทเท่านั้น ได้แก่ เม็ดและแคปซูล แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีในการผลิตของโรงงานรับผลิตอาหารเสริม ต่างๆ เข้ามามากขึ้น ทำให้เราสามารถคิดค้นและผลิตในรูปแบบต่างๆ ได้หลากหลาย

โดยปกติแล้วเจ้าของแบรนด์จะมีความต้องการที่ที่จะสร้างความแตกต่างให้กับการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง แต่อันที่จริงแล้วการเลือกรูปแบบอาหารเสริมต่างๆ ล้วนมีเหตุและผลที่เจ้าของแบรนด์จะต้องคำนึงถึง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย ดังนั้น เราจะมาดูกันค่ะว่าประเภทของอาหารเสริมนั้น มีกี่ประเภท และมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันค่ะ

1.อาหารเสริมแบบอัดเม็ด

อาหารเสริมประเภทนี้จะมีลักษณะนำผงและสารสกัดต่างๆ อัดรวมเข้าด้วยกัน ให้มีขนาดที่ต้องการ มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ทรงกลม ทรงรี ทรงเหลี่ยม เคลือบเม็ดหรือไม่เคลือบ

2.อาหารเสริมแบบแคปซูล

แคปซูลแบบนี้สามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วไป แคปซูลมาจากเจลาตินต่างๆ เช่น เจลาตินของสัตว์ มีได้หลากหลายขนาด

3. อาหารเสริมรูปแบบซอฟเจล

หรืออีกชื่อหนึ่ง ที่เราจะคุ้นหูกันดี ก็คือ รูปแบบซอฟเจล เป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวต่างๆ เช่น น้ำมันปลา หรือสารสกัดที่ไม่สามารถเข้ากับผงแห้งได้

4. อาหารเสริมรูปแบบของเหลว

เป็นอาหารเสริมที่อยู่ในรูปแบบพร้อมดื่ม ข้อดี คือเราจะสามารถควบคุมปริมาณ รสชาติ ความอร่อย และประโยชน์ได้เต็มที่ แต่ก็จะต้องแลกมากับราคาต่อหน่วยที่สูงขึ้นด้วย

5. อาหารเสริมรูปแบบผง

เป็นอาหารเสริมรูปแบบผสมน้ำ ให้ละลายแล้วดื่ม ซึ่งมีข้อดีที่เราสามารถเพิ่มสารสกัดต่างๆ ได้ตามต้องการได้ในซองเดียว ไม่จำเป็นต้องรับประทานแบบเม็ดครั้งละหลายๆ เม็ด

6. อาหารเสริมรูปแบบแคปซูลเซลลูโลส

มีลักษณะคล้ายกับอาหารเสริมรูปแบบแคปซูล แต่แคปซูลเซลลูโลสนี้จะสามารถใช้กับกลุ่มคนที่เป็นมังสวิรัตหรือผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ทานได้ เพราะแคปซูลลูโลส ทำมาจากเส้นใยของผัก แน่นอนว่าจะทำให้มีราคาสูงกว่าแคปซูลทั่วไป

ทำไมธุรกิจอาหารเสริมจึงเป็นที่นิยม?

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สร้างวิถีชีวิตใหม่ทางด้านสุขภาพให้แก่คนไทย หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่สม่ำเสมอกันมากขึ้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ผลักดันให้มูลค่าทางการตลาดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมปีนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด

จากผลการสำรวจของสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่าคนไทย 45.39% ได้หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายทั้งกลางแจ้งหรือในร่ม เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ตลอดทั้งการรับประทานอาหารเสริมและวิตามิน รวมทั้งเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแขนงต่าง ๆ มากขึ้น

แนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลจากบริษัทไอพีจี มีเดียแบรนด์ ประเทศไทย จำกัด ที่คาดการณ์ทิศทางใหม่จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงว่าในทุกวันนี้ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่กำลังเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ทำให้ต้องดูแลสุขภาพกันเป็นพิเศษมากกว่าแต่ก่อนนั่นเองค่ะ

อยากเป็นของแบรนด์อาหารเสริม ยากไหม ต้องเจอปัญหาอะไร มีขั้นตอนสร้างธุรกิจอย่างไรบ้าง?

หากจะพูดถึงการสร้างแบรนด์นั้น ก็เป็นที่ทราบกันดีค่ะว่า ในการเริ่มต้น มักมีความยากเสมอ รวมไปถึงการลองผิด ลองถูก เพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุดออกมา จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม เจ้าของแบรนด์ ต้องเลือกที่ปรึกษาหรือทีมที่ช่วยในการสร้างแบรนด์ให้ดี เพราะแต่ละขั้นตอนในการสร้างแบรนด์และกว่าจะได้สินค้าออกมานั้นมีความยากมากๆ นั่นเองค่ะ อีกทั้ง อาจพบเจอปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนกระทั่งขั้นตอนปล่อยออกจำหน่าย ดังนั้น เจ้าของแบรนด์จึงควรมีทีมปรึกษาในการสร้างแบรนด์ที่ชำนาญและมีประสบการณ์เพื่อช่วยให้แบรนด์มีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น

ปัญหาที่เจ้าของแบรนด์อาหารเสริม สามารถพบเจอได้ มีดังนี้…

จากที่ได้กล่าวไปค่ะว่า ขั้นตอนแรกเริ่มของการสร้างแบรนด์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอาจพบเจอกับปัญหาที่เจ้าของแบรนด์หลายๆ ท่านอาจจะยังไม่รู้ กำหนดทิศทางไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร โดยปัญหาที่เจ้าของแบรนด์อาจพบเจอ สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเด็นหลักๆ ดังนี้ค่ะ

1.ไม่มีความรู้ในการสร้างแบรนด์

ตลาดธุรกิจอาหารเสริมมีการแข่งขันที่สูงมาก หากนักธุรกิจมือใหม่ขาดความรู้ในการสร้างแบรนด์ รวมถึงขาดความรู้ในการวางแผนโมเดลธุรกิจ ขอบอกเลยว่า โอกาสที่จะเจ๊งนั้นมีสูงมากๆ ดังนั้นเราแนะนำให้เจ้าของแบรนด์ปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญของโรงงานผลิตอาหารเสริมจะดีที่สุด เพราะผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้มีประสบการณ์ในการสร้างแบรนด์รอบด้าน ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกคู่แข่งเอาเปรียบเลยค่ะ

2.พนักงานขาดความรู้ความเข้าใจในแบรนด์อาหารเสริม

ธุรกิจที่พึ่งก่อตั้งมักจะต้องวางรากฐานให้มั่นคง เพื่อที่บริษัทสามารถก้าวหน้าได้ไกล ยิ่งเป็นธุรกิจอาหารเสริมที่มีการแข่งขันสูง แบรนด์ใหม่ ๆ จึงต้องการพนักงานมากประสบการณ์มาช่วยสร้างแบรนด์ในระยะยาว แต่หากความรู้ความชำนาญของพนักงานยังไม่พอ ก็สามารถปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญของโรงงานผลิตอาหารเสริมได้เช่นกัน โรงงานเหล่านี้จะมีทีมงานมากประสบการณ์คอยสอนให้ความรู้ตั้งแต่ขั้นแรกเริ่มเลยค่ะ

3.ไม่มี Conection ในวงการธุรกิจ

“คอนเนกชั่น” ถือเป็นเรื่องสำคัญมากในการทำธุรกิจ เพราะยิ่งนักธุรกิจคนไหนมีคอนเนกชั่นมากๆ ก็เปรียบเสมือนมีคนพร้อมให้ความช่วยเหลือมากเท่านั้น แต่สำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้นทำธุรกิจอาหารเสริม หนึ่งในการเริ่มต้นสร้างคอนเนกชั่นของตัวเอง คือการเข้าหาโรงงานผลิตอาหารเสริมดังๆ ที่มีเครือข่ายกว้างขวาง โรงงานเหล่านี้พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและแนะนำเครือข่ายสังคมธุรกิจให้เจ้าของแบรนด์อยู่เสมอ

4. ขาดความน่าเชื่อถือเพราะเป็นแบรนด์ใหม่

แบรนด์อาหารเสริมที่เจ้าของธุรกิจไม่มีเครือข่ายสังคมที่มากพอ จะยิ่งขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้า ซึ่งในจุดนี้ทางโรงงานผลิตอาหารเสริมสามารถช่วยเหลือเจ้าของแบรนด์ได้ เพราะโรงงานผลิตอาหารเสริมดี ๆ พร้อมให้ความช่วยเหลือในการสร้างแบรนด์ รวมถึงวางแผนการตลาดเพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและมีความน่าเชื่อถือในระยะยาว และที่สำคัญหากอาหารเสริมของคุณผลิตจากโรงงานที่ได้คุณภาพ มีมาตรฐานรับรอง สามารถนำจุดเด่นของสินค้ามาสร้างความเชื่อถือได้อีกด้วย

โดย 4 ปัญหาดังกล่าว เป็นเพียง 1 ด่านแรกที่เจ้าของแบรนด์จะเจอเท่านั้นค่ะ ยังมีด่าน 2 ที่ถือว่ามีความหินกว่ามาก นั่นคือขั้นตอนการสร้างแบรนด์ และด่าน 3 การผลิต ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันค่ะ

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์อาหารเสริม เริ่มจาก…

แน่นอนว่า อาหารเสริมแต่ละแบรนด์ แต่ละตัว มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งอาจจะมีขั้นตอนไม่เหมือนกัน แต่สำหรับวิธีเบื้องต้นของการสร้างแบรนด์อาหารเสริมนั้น ามารถแบ่งออกได้ 6 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้ค่ะ

1.กำหนดประเภทของอาหารเสริมที่อยากผลิต

เนื่องจากอาหารเสริมนั้นมีหลายประเภทมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริมลดน้ำหนัก บำรุงกล้ามเนื้อ บำรุงร่างกาย-สมอง รวมไปถึงบำรุงสมรรถภาพทางเพศ ดังนั้น สิ่งที่เจ้าของแบรนด์ต้องทำเลยก็คือ ตัดสินใจเลือกว่าอยากผลิตอาหารเสริมประเภทไหน โดยต้องตีโจทย์จากยอดขายของอาหารเสริมในกลุ่มนั้นๆ เอามาเปรียบเทียบและพิจารณา ก็จะช่วยได้มากขึ้นค่ะ รวมถึงวิเคราะห์การตลาดว่าคู่แข่ง เยอะหรือไม่ และ มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากพอ ที่จะเข้าไปแข่งขันเพื่อสร้างยอดขายหรือเปล่า เพื่อให้เมื่อผลิตออกมาแล้ว จะสามารถขายได้ และมีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จ

ข้อน่ารู้: อาหารเสริมประเภทไหน ขายดีที่สุด?

ประเภทของอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ อาหารเสริมประเภทผง เนื่องจากเป็นอาหารเสริมรูปแบบผสมน้ำ ให้ละลายแล้วดื่ม ซึ่งมีข้อดีที่เราสามารถเพิ่มสารสกัดต่างๆ ได้ตามต้องการได้ในซองเดียว ไม่จำเป็นต้องรับประทานแบบเม็ดครั้งละหลายๆ เม็ด อีกทั้งยังสามารถชง และดื่มทานได้ในทุกวัย ทั้งเด็ก วัยทำงาน และผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ยังสามารถผลิตออกมาได้หลายขนาด ทั้งแบบเป็นกระปุกและเป็นซองเล็กๆ คล้ายกับซองกาแฟ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง นั่นจึงไม่เป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมอาหารเสริมประเภทนี้จึงได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาทั้งหมด 6 ประเภทค่ะ

2.คิดและพัฒนาสูตร

เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่ค่อนข้างใช้เวลา และมีความยากเป็นอย่างมาก เพราะใช่ว่าเมื่อเจ้าของแบรนด์หรือผู้ประกอบการคิดค้นสูตรไปแล้วครั้งแรกแล้ว จะสามารถผลิตและวางจำหน่ายได้เลย เป็นช่วงที่เจ้าของแบรนด์หรือผู้คิดค้นต้องลองผิด ลองถูก อยู่นานพอควร หรือในอีกทางหนึ่ง เจ้าของแบรนด์อาจมีสูตรเบื้องต้น หรือสูตรสำเร็จไปให้กับทางโรงงานก่อน จากนั้น จึงลองปรึกษากับทีมงานของทางโรงงานว่าต้องการพัฒนาหรือเพิ่มส่วนผสมอะไรบ้าง เพื่อให้อาหารเสริมของคุณมีจุดเด่น แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีอยู่ทั่วไปในท้องตลาด

3.ทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนถูกจัดจำหน่าย

เมื่อคิดค้นสูตร จนได้ผลิตภัณฑ์ตัวอย่างมาแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องทดสอบกับกลุ่มทดลองก่อน เพื่อให้ทราบถึงประสิทธิภาพ ความพึงพอใจ และความปลอดภัยในการบริโภค ซึ่งถ้าจะให้ดีแล้ว ควรมีผลงานวิจัยของผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับด้วย เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้เป็นเอกสารประกอบยื่นจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้ได้รับการอนุมัติง่ายขึ้นค่ะ

4.ตั้งชื่อแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ให้มีความเหมาะสม

เพื่อให้อาหารเสริมของคุณ สามารถยื่นจดทะเบียน ผ่าน อย. ได้ ควรตั้งชื่อแบรนด์ของอาหารเสริม ให้ถูกต้องตามหลักการที่ อย. กำหนด เช่น ไม่ใช้คำที่อธิบายถึงสรรพคุณของสินค้าที่ตรงตัว รวมถึงคำใดๆ ที่เป็นคำพ้องเสียงหรือลดทอนเสียงลง ก็สื่อถึงสรรพคุณนั้นๆ ได้ เช่น Slin ที่คล้ายกับ Slim หรือ Vac C ที่ถูกลดทอนเสียงลงให้คล้ายกับคำว่า Vaccine เป็นต้น ดังนั้น หากจะตั้งให้ถูกต้องตามระเบียบของ อย. ให้เจ้าของแบรนด์ตั้งตามหลักพจนานุกรมไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษที่มีความหมาย แต่ต้องไม่สื่อถึงสรรพคุณ ซึ่งอาจเป็นชื่อบุคคลหรือเป็นชื่อบริษัทเองก็ได้  ทั้งนี้ ในส่วนของสรรพคุณ หรือ ส่วนผสมต่างๆ ควรดูและตรวจให้ละเอียด  ต้องระมัดระวังในการใช้คำให้ดี เพราะอาจเข้าข่ายอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ผิดกฎหมายตามที่ อย. กำหนดได้ นอกจากนี้ ก็ควรใส่รายละเอียดต่างๆ  ที่อย. กำหนดด้วย เช่น วิธีใช้ ส่วนประกอบ ขนาดบรรจุ เลขที่ใบรับแจ้ง วันหมดอายุ คำเตือน เครื่องหมาย สัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ไม่ทำการทำลองกับสัตว์ เป็นต้น

ข้อน่ารู้: ทำไมการได้รับการ Approved จาก อย. จึงสำคัญต่อผู้บริโภค?

ปัจจุบันนี้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่ขายอยู่ในตลาดมีมากมายหลากหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์เก่า และ แบรนด์ใหม่ ซึ่งอาหารเสริมเป็นที่ต้องการของคนมากขึ้น เพราะ การใช้ชีวิตที่เร่งรีบ จึงมักไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ทานอาหารไม่ตรงเวลา พักผ่อนไม่เพียงพอ เลือกทานอาหารง่ายๆที่ไม่มีประโยชน์ จนส่งผลเสียให้กับร่างกายตามมา จึงต้องพึ่งอาหารเสริม เพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหายไป แต่การจะเลือกซื้ออาหารเสริมสักแบรนด์นั้น คงไม่สามารถเชื่อตามรีวิว หรือ กระแสนิยมเพียงอย่างเดียว แต่ผู้บริโภคต้องการสิ่งที่สามารถทำให้พวกเขาเชื่อถือในผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้ด้วยนั่นเองค่ะ

5.ออกแบบ Packaging (บรรจุภัณฑ์)

สำหรับบรรจุภัณฑ์ เจ้าของแบรนด์หรือผู้ประกอบการ อาจดูจากสินค้าเดิมจากท้องตลาด และสามารถออกแบบตามนั้นได้เลย เช่น สินค้าที่เป็นแคปซูล ออกแบบให้บรรจุใส่ในขวด สินค้าที่เป็นรูปแบบผง ให้ใส่ในซองเล็กๆ คล้ายๆ ซองกาแฟ เป็นต้น ส่วนแบนเนอร์ ฉลาก หรือกล่องใส่สินค้า ควรมีความดึงดูดและน่าสนใจ ควรจะออกแบบโดยคำนึงถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์ ว่ามีตัวตน ภาพลักษณ์และมูลค่าในระดับไหน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าที่แบรนด์ต้องการ รวมถึงสะท้อนนิสัยและบุคลิกภาพของเจ้าของแบรนด์เองด้วย

6. ยื่นจดทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อย.)

เมื่อได้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่เสร็จสมบูรณ์ ก็ถึงเวลายื่นจดทะเบียนกับ อย. เพื่อให้สามารถจัดจำหน่ายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยการเตรียมเอกสารตามที่อย. กำหนด ไม่ว่าจะเป็นสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนร้าน แผนที่ตั้งร้านบริษัท ฯลฯ พร้อมผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง 2 ชุด ที่มีฉลากเรียบร้อย ยื่นให้กับทาง อย. ตรวจสอบ หากอาหารเสริมของคุณผ่านเกณฑ์ ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด เพียงเท่านี้เจ้าของแบรนด์ก็จะสามารถวางขายอาหารเสริมได้อย่างสบายหายห่วงค่ะ

อย่างไรก็ดี กระบวนการการสร้างแบรนด์ทั้ง 6 ขั้นตอนนี้ เป็นเพียงขั้นตอนพื้นฐานเท่านั้น ซึ่งในแต่ละแบรนด์อาจมีขั้นตอนที่มากกว่านี้แตกต่างกันออกไป เนื่องจากที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นค่ะว่า อาหารเสริมมีหลายประเภท ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีขั้นตอนการสร้างแบรนด์ไม่เหมือนกัน

ทั้งนี้ เมื่อทุกๆ คนทราบถึงวิธีการสร้างธุรกิจอาหารเสริมเบื้องต้นไปแล้ว เราก็จะมาดูให้ลึกกันลงมาอีกค่ะว่า รายละเอียดของขั้นตอนการสร้างอาหารเสริมในโรงงาน มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลขั้นต้นในการศึกษาและพิจารณารายละเอียดต่างๆ ของสินค้าต่อไปค่ะ

กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทีละขั้นตอน มีอะไรบ้าง?

เมื่อกล่าวถึงขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม แน่นอนค่ะว่าจะมีรายละเอียดต่างๆ ที่ลงลึกไปอีก ทั้งนี้ต้องขอย้ำอีกครั้งนะคะว่า ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม มีหลายประเภท ดังนั้น ขั้นตอนการผลิตที่ Charmace กำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นขั้นตอนการผลิตเบื้องต้นที่เจ้าของแบรนด์พึงทราบเท่านั้น โดยขั้นตอนจริงๆ อาจจะต้องไปดูหน้างานที่โรงงานอีกครั้งนั่นเองค่ะ ซึ่งขั้นตอนการผลิตอาหารเสริมเบื้องต้น มีวิธีการต่างๆ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1  สูตรของผลิตภัณฑ์

เจ้าของแบรนด์ทุกคนจะสามารถสังเกตได้ว่า ขั้นตอนเริ่มต้นมักเกี่ยวกับสูตรของสินค้าทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ เจ้าของแบรนด์ต้องมั่นใจในสูตรของตนเองเสียก่อน หรืออาจมีสูตรเบื้องต้นมาก่อน และหากอยากได้สูตรอื่นๆ เพิ่มเติม ก็เข้ารับคำปรึกษาจากทีมผู้ผลิตหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อพัฒนาสูตรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ขั้นตอนที่ 2 เลือกสรรวัตถุดิบ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสูตรที่ดี ต้องใช้ส่วนผสมที่มีหลักการรับรอง เพื่อเป็นตัวช่วยการันตีประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ เจ้าของแบรนด์สามารถเลือกส่วนผสมได้จากทั่วโลกโดยพิจารณาจากคุณภาพ และปัจจัยอื่นๆ เช่น การเลือกส่วนผสมที่มีคุณสมบัติในการดูดซึมสูง ตัวอย่างเช่น แร่ธาตุเสริมหลายชนิดรวมถึงเกลือแร่ที่ดูดซึมกรดอินทรีย์ได้ดี ซึ่งรวมถึงซิเตรต พิโคลิเนต และกลูโคเนต ที่มีคุณสมบัติทำนองเดียวกัน โดยอาจเป็นสูตรที่มีสารสกัดจากสมุนไพร ซึ่งมีส่วนทำให้สารต่างๆ ดังกล่าวออกฤทธิ์ตามธรรมชาติเพราะสกัดมาจากสมุนไพร เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 3 ผู้ผลิตกำหนดราคาสูตร

เมื่อทำการเลือกวัตถุดิบเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้น สิ่งที่ทางทีมเจ้าของแบรนด์ต้องทำคือการส่งรายชื่อวัตถุดิบหรือส่วนผสมต่างๆ ที่ได้เลือกไว้ ให้กับทางโรงงานเพื่อทำการประเมินค่าใช้จ่าย หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของทางโรงงาน ที่หลังจากทำการประเมินราคาแล้วก็ต้องทำใบเสนอราคากลับมาทางเจ้าของแบรนด์อีกครั้งเพื่อทำข้อต้องตกลงกัน

ขั้นตอนที่ 4 การส่งคำสั่งซื้อไปทางโรงงาน

เป็นขั้นตอนถัดมาของเจ้าของแบรนด์หลังจากได้รับใบเสนอราคาจากทางโรงงานแล้ว ซึ่งในขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าของแบรนด์โดยสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเรื่องราคา หรือข้อตกลงต่างๆ ก็สามารถทำได้เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ

ขั้นตอนที่ 5 สั่งซื้อวัตถุดิบ

หลังจากที่ทางเจ้าของแบรนด์และโรงงานผลิตทำการเสนอราคาและข้อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย ก็มาถึงขั้นตอนการสั่งซื้อวัตถุดิบต่างๆ ที่ทางเจ้าของแบรนด์ได้ทำการ Request มา ซึ่งจากที่กล่าวไว้ข้างต้นค่ะว่า สูตรอาหารเสริมของเจ้าของแบรนด์สามารถมาได้จากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งวัตุดิบแต่ละอย่างก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ในบางตัวก็สามารถหาได้จากประเทศไทย หรือ บางตัวก็ต้องทำการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องมีราคาที่สูงกว่าพอตัว โดยทางโรงงานผลิตก็จะทำการสั่งซื้อเพื่อรอนำเข้ากระบวนการการผลิตต่อไปค่ะ

ขั้นตอนที่ 6 ได้รับวัตถุดิบ และ ทำการทดสอบ

หลังจากที่ได้รับวัตุดิบหรือส่วนผสมจนครบแล้ว ทางโรงงานจะยังไม่ทำการผลิตโดยทันที แต่จะตัววัตถุดิบต่างๆ จะถูกกักไว้ เพื่อทำการทดสอบเสียก่อนว่าปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งหลังจากทดสอบ และได้ผลการทดสอบที่ดี วัตถุดิบทุกชนิดมีความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายการผลิตจากทางโรงงานก็จะเริ่มทำการนำส่วนผสมต่างๆ เข้าสู่กระบวนการการผลิต

ขั้นตอนที่ 7 วิจัย พัฒนา ผลิต ตัวผลิตภัณฑ์

ขั้นตอนนี้เข้าสู่ช่วงการผลิตโดยสมบูรณ์ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ค่อนข้าง Take Time ค่ะ เพราะอาจทำการปรับเปลี่ยน หรือ ต่อยอดจากสูตรพื้นฐานของเจ้าของแบรนด์นั่นเอง โดยเริ่มแรกเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของโรงงานผลิตจะทำการวิจัยอีกครั้งเกี่ยวส่วนผสมต่างๆ เพื่อที่จะได้ศึกษารายละเอียดว่าวัตกุดิบตัวไหนนำมาพัฒนาหรือต่อยอดได้อีกบ้าง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ได้คุณภาพมากที่สุด หลังจากนั้น เมื่อการวิจัยและพัฒนาสิ้นสุดลง ได้สูตรที่ลงตัวและเหมาะสมแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตต่อไป แต่จะผลิตออกมาในรูปแบบทดลองใช้ก่อนออกจำหน่าย

รูปแบบการพัฒนาสูตรอาหารเสริม มีดังนี้

  • พัฒนาสูตร จากสินค้ามาตรฐานของบริษัท
  • พัฒนาสูตร จากสินค้าตัวอย่างของลูกค้า
  • พัฒนาสูตรใหม่ จากผลลัพธ์ และสารสกัดตามความต้องการของลูกค้า

ระยะเวลาในการพัฒนาสูตร ภายใน 7-14 วัน ทางบริษัทจะทำการจัดส่งสินค้าที่พัฒนาสูตร หรือ ปรับปรุงแล้วให้กับลูกค้า พร้อมรายละเอียดสูตร และ แบบประเมินผลทดลองผลิตภัณฑ์ค่ะ

ขั้นตอนที่ 8 ชุดผลิตภัณฑ์นำร่อง

จากที่กล่าวไว้ในขั้นตอนที่แล้วค่ะว่า จากขั้นตอนการผลิตนั้น ทางโรงงานจะผลิตออกมาในเซ็ททดลองใช้ก่อน หรือเรียกได้ว่าเป็นชุดผลิตภัณฑ์นำร่อง เพื่อให้เจ้าของแบรนด์หรือทางทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทำการศึกษาและทดสอบอีกครั้ง เพื่อดูว่ายังมีจุดไหนที่ต้องได้รับการปรับปรุงอีกบ้าง ซึ่งขั้นตอนการทดสอบผลิตภัณฑ์ชุดนี้ก็จะมีขั้นตอนที่แยกย่อยออกมาอีกค่ะ

ขั้นตอนที่ 9 ดำเนินการผลิตและทดสอบ

หลังจากที่ทำการทดสอบสินค้าชุดนำร่องแล้ว หากเจ้าของแบรนด์และผู้เชี่ยวชาญได้ทำการปรับเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการผลิตรอบปรับปรุงอีกครั้ง ซึ่งหากมองเป็นเรื่องของการทำงาน ก็สามารถเปรียบเทียบได้กับการมี Draft 1  … Draft 2 …Draft 3 ไปเรื่อยๆ เพื่อให้เจ้าของแบรนด์พอใจ พร้อมส่งสินค้าออกจำหน่ายในที่สุด

ขั้นตอนที่ 10 การทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนออกจำหน่าย

เป็นขั้นตอนการทดลองครั้งสุดท้ายก่อนส่งออกจำหน่าย โดยขั้นตอนนี้ การผลิต การทดสอบที่เกี่ยวข้อง และการทดสอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปอาจใช้เวลา 1-3 สัปดาห์ ไม่รวมเวลาที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบความเสถียรซึ่งเจ้าของแบรนด์จำนวนมากเลือกที่จะดำเนินการหลังจากจัดส่งผลิตภัณฑ์แล้ว โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของ CM (ผู้คุมงานผลิต) ที่มีส่วนผสมในอาหารเสริมเพื่อสร้างวันหมดอายุแล้วทำการปรับเปลี่ยนใดๆ ที่อาจจำเป็นใน ดำเนินการผลิตต่อไป

โรงงานผลิตอาหารเสริม มีกี่แบบ เลือกแบบไหนให้เหมาะกับแบรนด์เรา?

โรงงานที่เจ้าของแบรนด์สามารถเลือกได้มีทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ซึ่งมีข้อแตกต่างกัน ดังนี้ค่ะ

แบบที่ 1 โรงงานแบบ OEM

คำว่า OEM ย่อมาจากคำว่า Original Equipment Manufacturer ลักษณะของโรงงานที่รับผลิตสินค้าประเภทนี้ คือโรงงานมีเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตอยู่แล้ว และรับผลิตสินค้าให้กับลูกค้าเพื่อนำไปติดแบรนด์ที่มีอยู่แล้วของลูกค้า เช่น ลูกค้ามีแบรนด์ที่แข็งแรงแล้วในตลาด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อะไร หรือแม้แต่อะไหล่รถยี่ห้อดัง สมาร์ทโฟน ก็อาจจะพึ่งโรงงานประเภทนี้ และโรงงานประเภทนี้มักมีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล มีเครื่องหมายรับรอง เชื่อถือได้ในเรื่องของคุณภาพที่แบรนด์ดังไว้วางใจ

ข้อดีของโรงงาน OEM

  • ช่วยลดต้นทุนการผลิตต่ำ
  • เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง
  • ง่ายต่อการเปลี่ยนลักษณะหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจ
  • มีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการผลิตคอยดูแล

ข้อเสียของโรงงาน OEM

  • มีต้นทุนการผลิตสูงกว่าผลิตเอง
  • หากใช้สูตรกลาง สินค้าและคุณภาพอาจจะไม่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ มากนัก

แบบที่ 2 โรงงานแบบ ODM

ODM ย่อมากจาก Original Design Manufacturer โรงงานแบบนี้มักจะมีพัฒนาขึ้นมาจากแบบ OEM คือเป็นโรงงานที่มีการทำวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ หากเป็นการผลิตอาหารเสริม หรือเครื่องสำอาง จะมีการคิดค้น ทำวิจัย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและจุดเด่นที่แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่เดิมในท้องตลาด การคิดพัฒนานั้นมีการทดลอง ทดสอบประสิทธิภาพ และเป็นสูตรที่ลงตัวให้มีมาตรฐานของตัวเอง อีกทั้งมีความพร้อมในการให้บริการครบวงจร อย่างที่โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม ครบวงจรนิยมทำกัน นั่นก็คือนอกจากผลิตแล้ว ยังรับออกแบบทั้งโลโก้ ฉลากสินค้า อีกทั้งจัดหาบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะและสวยงาม ถูกใจตลาด รวมถึงจดทะเบียน อย.กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ครบวงจรเพื่อลูกค้าที่มาใช้บริการผลิตเพื่อสร้างแบรนด์จะได้สะดวก และได้สินค้ารวดเร็ว มีเอกลักษณ์เฉพาะนั่นเองค่ะ

ข้อดีของโรงงาน ODM

  • ไม่ต้องออกแบบเอง สามารถขายได้เลย เหมาะกับผู้เริ่มต้นทำแบรนด์
  • หากเลือกออกแบบที่เป็น Exclusive จะได้แบรนด์สินค้าที่ไม่ซ้ำใคร
  • ช่วยลดต้นทุนการผลิตต่ำ สามารถย้ายฐานการผลิตไปประเทศที่ต้นทุนต่ำกว่าได้ตลอด
  • เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง
  • มีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการผลิต และการออกแบบคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

ข้อเสียของโรงงาน ODM

  • มีต้นทุนและค่าใช้จ่ายการผลิตที่สูงกว่า โรงงานประเภทอื่น เพราะมีเรื่องการออกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

แนวทางการเลือกโรงงานรับผลิตอาหารเสริม ต้องเลือกแบบไหน?

ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ควรทราบถึงขั้นตอนการผลิต ของโรงงานนั้นๆ ด้วยค่ะ เพื่อป้องกันปัญหาทั้งเรื่องส่วนผสมและฉลากต่างๆ เพราะถือเป็นปัจจัยที่ อย. ค่อนข้างเคร่งมากๆ

ข้อสรุปสำหรับเจ้าของแบรนด์ ก่อนลงมือสร้างแบรนด์ และสั่งผลิตอาหารเสริม

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือ สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง หรือ ผู้ที่อยากขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นขายครีมออนไลน์ ขายอาหารเสริมออนไลน์ สามารถปรึกษาข้อมูลได้ที่ บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด โรงงานรับผลิตอาหารเสริม รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิว รับผลิตคอลลาเจน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพทุกชนิด

มีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็คเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ

ทำไมต้องผลิตอาหารเสริม กับ Charmace

เราคือบริษัท รับผลิตอาหารเสริม และ สร้างแบรนด์อาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชสำอาง ครีม คุณภาพทุกชนิด อย่างครบวงจร รวมถึงควบคุมการผลิตโดยแพทย์ เภสัชกร และ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาด้านธุรกิจการตลาด เราสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และเราพร้อมที่จะบริการให้คำปรึกษา ในด้านต่างๆ โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความสามารถ และ ประสบการณ์ในธุรกิจการผลิตเครื่องสำอาง และ อาหารเสริมอย่างมืออาชีพค่ะ นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยการการันตีต่างๆ เช่น

ทีมวิจัยและพัฒนาชั้นยอด

เรามีทีมงานวิจัยและพัฒนาสูตรผลิตภัณ์ที่มี ประสบการณ์สูงคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ

มาตราฐานของโรงงานระดับสากล

มาตราฐานของโรงงาน CHARMACE ทันสมัยและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

บริการจดทะเบียน อย. ง่ายและเร็ว

บริการจดทะเบียนอย. ด้วยขั้นตอนการขึ้นทะเบียนที่รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก

ดีไซน์บรรจุภัณฑ์แบบมืออาชีพ

เรามีทีมออกแบบบรรจุภัณฑ์มืออาชีพที่ช่วยออกแบบ ให้ผลิตภัณฑ์ดูทันสมัยและตรงตามความต้องการของตลาด

พันธมิตรกับช่องทางการตลาด

เราเป็นพันธมิตรกับช่องทางการตลาดเช่นวิทยุ, TV สื่อออนไลน์. นิตยสารที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการตลาด

พร้อมเป็นที่ปรึกษาทางการตลาด

พร้อมให้คำปรึกษาด้านการตลาดเสมือนเราเป็นหุ้นส่วนกับเจ้าของแบรนด์

มีคอนเนคชั่นกับศิลปิน นักแสดง และ เน็ตไอดอล

มีคอนเนคชั่นกับดารา , นางแบบ , เน็ทไอดอล , Blogger ที่สามารถช่วยโปรโมตผลิตภัณฑ์ของลูกค้าเราได้

ความเร็วในการผลิตสินค้า

โรงงานของเราสามารถผลิตสินค้าได้รวดเร็วทันความต้องการของลูกค้าแน่นอน

Charmace รับผลิต อาหารเสริม เราสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล

แผนกวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารเสริม

บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด เรามีทีมนักวิทยาศาสตร์ ทีมนักวิจัย และเภสัชกร ที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังเชียวชาญระดับสูง ที่จะคอยควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม ไม่ว่าจะเป็น แผนกวิจัยและพัฒนาฝ่ายอาหารเสริม แผนกวิจัยและพัฒนาสารสกัดสมุนไพร ตลอดจน ครีม เครื่องสำอาง ต่างๆ อีกทั้งทีมวิจัยและพัฒนาได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมทดสอบและพัฒนาสูตรอาหารเสริมให้มีคุณภาพสูง พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ และปรับแต่งสูตรต่างๆ ตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม และให้ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

แผนกตรวจสอบความปลอดภัยอาหารเสริม QC Department

หลังจากผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาเรียบร้อย เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม ครีม สบู่ ตลอดจนเครื่องสำอาง ทุกชนิด ด้วยการควบคุมคุณภาพภายใต้มาตรฐานการรับรองระดับโลก GMP HACCP HALAL ทั้งตรวจสอบความปลอดภัยของสารปนเปื้อนทุกชนิด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่าง 100%

กระบวนการผลิตอาหารเสริม (Production)

ทุกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม ครีม สบู่ เครื่องสำอาง ทุกชิ้นของบริษัท ได้ผ่านการควบคุมอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพ รับรองคุณภาพและวิธีการผลิตตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด อีกทั้งยังควบคุมดูแล ทำความสะอาดเครื่องจักรในกระบวนการผลิตอยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และผ่านการทดสอบจากห้องแลบมาตรฐานระดับสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความไว้วางใจ ในการนำผลิตภัณฑ์สู่ท้องตลาดไปสู่มือผู้บริโภค จากโรงงานของเรา

ท้ายที่สุด หลายๆ คนคงเห็นแล้วนะคะว่า กว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ หรือ อาหารเสริม มาแต่ละตัว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สิ่งที่สำคัญมากๆ คือ เจ้าของแบรนด์ต้องพิจารณาเลือกทีมสร้างแบรนด์และโรงงานผลิตให้ดี เพราะหากมีขั้นตอนใดผิดพลาด ก็จะมีปัญหาตามมาได้เรื่อยๆ ค่ะ ทั้งนี้ ในเรื่องของเวลาดำเนินการการผลิตจำเป็นต้องใช้เวลา อย่างต่ำคือประมาณ 12-16 สัปดาห์ (ซึ่งนับจากขั้นตอนสั่งซื้อวัตถุดิบ) เจ้าของแบรนด์สามารถใช้เวลากับสินค้าของตนเองได้เต็มที่ เพื่อให้สินค้าออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุดค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

สร้างจุดขายให้แบรนด์ กับ สารประกอบสุดฮิต ที่ตลาดต้องการ เพิ่มยอดขายหลายร้อยล้าน !!

ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!

ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ

บริการของเรา มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ใส่ใจทุกกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐาน 

ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือ สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง หรือ ผู้ที่อยากขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นขายครีมออนไลน์ ขายอาหารเสริมออนไลน์ สามารถปรึกษาข้อมูลได้ที่ บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิว รับผลิตคอลลาเจน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพทุกชนิด

มีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็คเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ